"วิโรจน์" ควง ผู้สมัคร ส.ก.เขตดอนเมือง พบประชาชน ตลาดฝั่งโขง รับ พลังคนรากหญ้า คือ ตัวแปรสำคัญ เลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมปราศรัย ชู นโยบายหลัก 12 ข้อ ด้าน "ไกรศักดิ์" รับลูก เชื่อ ส.ก ต้องช่วยผู้ว่าฯ กทม.ทำหน้าที่เปลี่ยนกรุงเทพฯ

วันที่ 9 เม.ย. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ควง ตุ้ย นายไกรศักดิ์ สังเวียง ผู้สมัคร ส.ก. เบอร์ 5 พรรคก้าวไกล เดินตลาดเช้า ณ ตลาดริมโขง เขตดอนเมือง เพื่อพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่มาจับจ่ายใช้สอยในวันหยุดสุดสัปดาห์ และพ่อค้าแม่ในตลาดอย่างเป็นกันเอง ถัดจากการเดินตลาด นายวิโรจน์ พร้อม ตุ้ย นายไกรศักดิ์ เดินขึ้นรถปราศรัย เพื่อหาเสียงแนะนำนโยบาย พร้อมขอคะแนนให้กับพี่น้องประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาในพื้นที่

นายวิโรจน์ ได้ยกตัวอย่างนโยบายแต่ละข้อของตน พร้อมกับไฮไลต์เรื่องงบประมาณของกทม. ที่เพิ่มมากขึ้นเท่าตัวในช่วง 7 ปีที่ผ่าน และถ้าหากตนเป็นผู้ว่าฯ จะมีการจัดสรรงบประมาณใหม่ เพื่อให้อำนาจในการตัดสินใจและการใช้งบประมาณอยู่ที่ประชาชนแทน พร้อมยกตัวอย่างนโยบาย "หยุดระบบอุปถัมภ์ด้วยงบที่คนกรุงเทพฯเลือกเองได้" ซึ่งจะมีการกระจายงบประมาณ "งบชุมชน" 500,000-1,000,000 บาทต่อปี ตามขนาดของชุมชน เพื่อให้ประชาชนและคนในพื้นที่นำเงินไปออกแบบแก้ไขปัญหา เพราะวิโรจน์เชื่อว่าคนที่เข้าใจปัญหาดีสุด คือ ประชาชน และ "งบเขต" เฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อปี เพื่อทำโครงการที่เลือกโดยประชาชน และ "งบกรุงเทพฯ" จัดสรรเงิน 200 ล้านบาทต่อไปสำหรับ ทำโครงการเพื่อคนกทม.

...

ด้าน นายไกรศักดิ์ รับลูก นายวิโรจน์ ยืนยันหากได้ทำหน้าที่ และได้รับความไว้วางใจ จะทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. อย่างแข็งขัน และทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมประสานระหว่างผู้ว่าฯกทม. และประชาชนในพื้นที่ในเรื่องของงบประมาณ การเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน

ขณะที่ นายวิโรจน์ แสดงความมั่นใจการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ว่า พลังที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯไม่ได้มีแค่คนชั้นกลาง แต่ยังรวมถึงคนรากหญ้า หาเช้ากินค่ำ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ผ่านมา

“จากการพูดคุยกับประชาชน ผมเห็นสีหน้าและแววตาที่มีความหวังว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มสวัสดิการให้พวกเขาได้จริงๆ จะช่วยให้เศรษฐกิจดีจากการกระจายงบประมาณลงมาสู่มือประชาชนได้จริงๆ ผมคิดว่านี่คือตัวแปรสำคัญที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้” นายวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย