“สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” บอกไม่อยู่เหนือความคาดหมาย จำนวนผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ เอาความขยันเข้าสู้ ให้ปชช.เกิดความมั่นใจ เผย หากเห็นป้ายหาเสียงขวางทาง แจ้งมาที่ไลน์และเฟซบุ๊กได้ทันที

วันที่ 4 เมษายน 2565 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ซอยอารีย์ พหลโยธิน ร่วมกับผู้สมัคร ส.ก.เบอร์ 1 นายเมธวิน อังคทะวานิช พร้อมด้วย นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ผอ.ศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.พรรคประชาธิปัตย์ นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค

โดยนายสุชัชวีร์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงจำนวนผู้สนใจลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ว่า ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ตนเองก็จะต้องขยัน ขยัน ขยัน อย่างเดียว และต้องทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในนโยบายที่ได้ประกาศออกไปว่าทำได้จริง และมั่นใจว่ากรุงเทพฯ ต้องเปลี่ยนเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย ต้นแบบของอาเซียนให้ได้ ไม่อยากให้ปัญหาซ้ำซากนี้ต้องไปถึงผู้ว่าฯ คนต่อไป ส่วนสิ่งแรกที่อยากทำเมื่อได้รับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. นายสุชัชวีร์ ตอบอย่างมั่นใจว่า “สิ่งแรกที่ผมต้องทุ่มเทกำลังแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนคือเรื่องโควิด-19 เพราะหากแก้ปัญหานี้จะแก้ได้อีก 4 เรื่องทันที 1.เรื่องเศรษฐกิจ 2.เรื่องการท่องเที่ยว 3.เรื่องกำลังพลบุคลากรทางการแพทย์ 4.เรื่องงบประมาณในการพัฒนาด้านอื่น เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนสำคัญที่สุด”

...

นอกจากนี้ นายสุชัชวีร์ ยังได้พบทีมงานที่กำลังติดป้ายหาเสียง จึงได้ให้คำแนะนำด้วยตัวเอง พร้อมกับระบุว่า ป้ายหาเสียงของตนยังมีจำนวนน้อยอยู่ แต่ได้ทำไว้หลายรูปแบบให้เหมาะสมกับยุคสมัย ซึ่งป้ายหาเสียงขนาดเล็กนั้นมีใช้มานานแล้ว ซึ่งของตนก็มีแต่ยังไม่ได้ติด พร้อมกับได้กำชับทีมงานให้ระมัดระวังการติดตั้งป้ายไม่ให้กีดขวางจราจร ส่วนเรื่องการถูกทำลายป้ายหาเสียงนั้น เนื่องจากป้ายของเรายังไม่เยอะ ทำให้ยังไม่พบปัญหาดังกล่าว

“เราต้องเห็นตรงกันก่อนว่า ‘คนเดินเท้า’ ใน กทม.สำคัญที่สุด การติดตั้งป้ายหาเสียงต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และวิสัยทัศน์ของคนเดินเท้า ต้องไม่บังทางข้าม ทางม้าลาย ต้องไม่กีดขวางทางสัญจร แม้ว่าผมจะไม่สามารถตรวจดูได้ทุกป้าย แต่หากพี่น้องประชาชนพบเห็นป้ายของผมมีการติดตั้งกีดขวาง หรืออาจจะก่อให้เกิดอันตราย ให้แจ้งเข้ามาทางช่องทางติดต่อทางไลน์ก็ได้ เฟซบุ๊กก็ได้ จะรีบดำเนินการแก้ไขทันที”

นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกด้วยว่า แม้ในการเลือกตั้งใหญ่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส.ในกรุงเทพฯ เลย แต่จากการลงพื้นที่ครบ 50 เขตไปแล้ว รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะประชาชนให้การต้อนรับจริงๆ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะกลับมาให้การสนับสนุน

“ผมลงพื้นที่ไป 50 เขต ได้รับการต้อนรับที่ดีจากทุกวัย มีแฟนคลับหลายรุ่นตั้งแต่รุ่นเด็กจนถึงรุ่นคุณยาย และทุกครั้งที่ลงพื้นที่ก็พบว่าคนไทยใจดี บรรยากาศแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้ในโลก ทำให้มีความมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับอย่างดี ส่วนเรื่องโพลก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ยิ่งเป็นรองก็ต้องยิ่งขยันมากยิ่งขึ้น”.