“ชัชชาติ” ลุยหาเสียง ย่านบางพลัด ชูภาพรักษ์เมือง ลดขยะ ลดมลพิษ ฟุ้ง ได้รับเสียงตอบรับดี ลั่น ดูแลแก้การศึกษา-สาธารณสุข ให้ดีขึ้น บอกคนจะเลือกไม่ใช่เห็นป้ายหาเสียง แต่อยู่ที่นโยบาย 

วันที่ 1 เม.ย. เวลา 07.00 น. ที่ตลาดวัดรวกบางบำหรุ เขตบางพลัด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เบอร์ 8 ลงพื้นที่พบปะแนะนำตัวกับชาวบ้าน และพ่อค้าแม่ค้าในย่านดังกล่าว  บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีชาวบ้านให้ความสนใจร่วมทักทาย ขอถ่ายรูป ตลอดเส้นทาง ระหว่างลงพื้นที่นายชัชชาติได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับชาวบ้าน สอบถามความเป็นอยู่รวมถึงแลกเปลี่ยนเรื่องการใช้ยานพาหนะกับคนในพื้นที่เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานในการเดินทางมาตลาด 

นายชัชชาติ กล่าวถึงกลยุทธ์ในการหาเสียงว่า ตอนนี้ต้องทำทุกแบบ เพราะเราบอกว่า เราจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน และข้อมูลการสื่อสารต้องไปทุกกลุ่ม และมีการใช้ระบบสื่อสารออนไลน์ ซึ่งปล่อยไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว และลงพื้นที่ชุมชนที่อาจจะเข้าไม่ถึงสื่อออนไลน์ วันนี้ตนมาลงพื้นที่บางพลัด เจอชาวบ้านเยอะ อุ่นใจ มีเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี พื้นที่บังคับเป็นจุดที่น่าสนใจเพราะมีความเจริญมาถึงแล้วจะเห็นได้ว่า มีรถไฟฟ้ามาถึงบริเวณจรัญสนิทวงศ์ แต่ชาวบ้านที่อยู่ในซอยวิถีชีวิตยังคงเหมือนเดิม ยังไม่ได้ประโยชน์กับเส้นเลือดใหญ่อย่างรถไฟฟ้ามากนัก ปัญหาที่เยอะที่มาเจอ คือ ชุมชนที่ยังไม่มั่นคง อย่างชุมชนวัดรวกฯ ก็มีชุมชนที่อยู่รอบวัดอีก 5 ชุมชน ดังนั้นตนคิดว่า การดูแลสาธารณสุขการศึกษาที่อยู่อาศัย ชุมชนในเขตบางพลัดเป็นเรื่องสำคัญและกทม.จะต้องลงมาดูแลพยายามให้ประชาชนได้ประโยชน์จากรถไฟฟ้า การเดินทางที่สะดวกขึ้น

...

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเห็นว่า บางทีการหาเสียงทำให้เกิดสกปรก รกรุงรัง ขวางทางเดิน เราทำตั้งใจทำให้เมืองดีขึ้น แต่ถ้าเริ่มต้นทำให้เมืองแย่ลงก็ถือว่าผิดหลักการ ดังนั้นจึงแจ้งกับทีมงานในเรื่องของการหาเสียงแบบรักเมือง ขั้นแรกคือการใช้ป้ายให้น้อยลง เล็กลง ไม่เบียดบังผู้คน ไวนิลก็เอามา "รียูส" เป็นกระเป๋าได้ และกระดาษใบปลิวหาเสียงเป็นชนิดเดียวกับกระดาษหนังสือพิมพ์ สามารถนำมารีไซเคิลได้ แม้แต่เอาไปรองนั่ง ห่อดอกไม้ เช็ดกระจกก็ถือว่าได้ใช้ประโยชน์ ส่วนรถแห่ก็จะใช้รถ EV เพราะไม่ก่อให้เกิด PM 2.5 ไม่ก่อให้เกิดมลพิษและก๊าซเรือนกระจก แต่ปัญหาของการใช้รถ EV ในกรุงเทพฯ ก็มี เช่น จุดเติมไฟ เรื่องการหารถกระบะที่เป็น EV ไม่ใช่ง่าย แต่ก็ต้องพยายามและเข้าใจปัญหามากขึ้น ซึ่งกทม.ต้องเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหามากขึ้น

"การใช้ป้ายที่มันจำกัด ก็ช่วยในเรื่องของการร้องเรียนมากขึ้น แต่ตนก็เชื่อว่า คนคงไม่มีใครเลือกเราเพราะเห็นป้าย แต่คนจะเลือกเราเพราะนโยบาย เพราะเชื่อมั่นในตัวเรา เชื่อว่าป้ายไม่ได้มีผล ตนมองว่าป้ายเป็นวิธีการหาเสียงสมัยก่อนต่อเนื่องกันมา หลักง่ายๆ เห็นป้ายอื่นให้คิดถึง 'ชัชชาติ' เพราะเราไม่ได้ติดป้ายเยอะ" นายชัชชาติ กล่าว