ศบค. รับ โควิด-19 ในไทย ยังอยู่ช่วงขาขึ้น ปรับพื้นที่สีส้ม ห้ามรวมตัวเกิน 500 คน ไม่เปิดให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร แต่ซื้อกลับบ้านไปทานได้ ส่วนสีเหลือง ดื่มสุราในร้านได้ แต่ไม่เกิน 5 ทุ่ม
วันที่ 31 มี.ค. 65 เมื่อเวลา 12.30 น. แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึง กรณีการปรับพื้นที่สีทั่วประเทศตามสถานการณ์ จากเดิม 23 ก.พ. 65 จากเดิม พื้นที่ควบคุมปรับลดลงจาก 44 จังหวัด เหลือ 20 จังหวัด สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสูง สีเหลือง ปรับเพิ่มขึ้นจาก 25 เป็น 47 จังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวสีฟ้าจาก 8 เป็น 10 จังหวัด
แพทย์หญิงสุมนี กล่าวต่อว่า โดยมาตรการที่สำคัญในการปรับพื้นที่ 2 เรื่อง คือ พื้นที่สีส้ม จำกัดไม่ให้รวมกลุ่มไม่เกิน 500 คน ส่วนพื้นที่สีเหลือง จำกัดรวมกลุ่มไม่เกิน 1,000 คน พื้นที่สีส้ม ยังไม่อนุญาต ให้ดื่มสุราที่ร้านอาหารได้ แต่ให้ซื้อกลับไปบ้านได้ ส่วนพื้นที่สีเหลือง สามารถดื่มสุราแอลกอฮอล์ ที่ร้านอาหารได้ แต่ไม่เกิน เวลา 5 ทุ่ม
"ส่วนมาตรการเข้าราชอาณาจักร มีการยกเลิกตรวจ RT-PCR ทั้ง 3 กลุ่ม เทสต์แอนด์โก แซนด์บ็อกซ์ และควอรันทีน โดย เทสต์แอนด์โก ยังตรวจ RT-PCR วันแรก ที่มาถึงไทย และตรวจ ATK ด้วยตัวเองในวันที่ 5 ส่วนคนที่เข้ามาแบบควอรันทีน คงยังต้องตรวจ RT-PCR วันแรก และ RT-PCR ในวันที่ 4-5 ก่อนออกจากสถานที่กักตัว และนักเดินทางที่มาจาก แซนด์บ็อกซ์ หรือแบบ ควอรันทีน ให้ลดวันกักตัวลงเหลือ 5 วัน จากเดิมต้องอยู่ 7 วัน" ผู้ช่วยรองโฆษก ศบค. กล่าว
...
แพทย์หญิงสุมนี กล่าวอีกว่า ส่วนสาระสำคัญของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 43 คือ การจัดงานสงกรานต์ในปีนี้ ห้ามจัดงานในที่สาธารณะ เช่น ถนน ที่หน้าบ้าน ห้าม ประแป้ง หรือ เล่นปาร์ตี้โฟม สำหรับพื้นที่กำหนดให้สามารถจัดงานได้ตามประเพณี ให้ทำตามมาตรการ ตามคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาอนุญาต แต่ห้ามประแป้ง เล่นปาร์ตี้โฟม ห้ามจำหน่ายสุรา ในพื้นที่จัดงาน ส่วนพื้นที่หมู่บ้านต้องอนุญาตจากองค์การปกครองท้องถิ่นก่อน
ขณะผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ ช่วงนี้ ยังเป็นช่วงขาขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างช้าๆ สำคัญอยู่ที่การฉีดวัคซีน ที่เราต้องฉีดเพื่อจะได้ลดไม่ต้องให้ไปรักษาตัวที่ ร.พ.โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608
"ส่วนอัตราครองเตียงรวม เพิ่มขึ้นจาก 1 ใน 4 ที่ 25% เป็นเกือบ 30%หรือประมาณ 1 ใน 3 ดังนั้น ยังเน้นมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อยู่ห่าง-ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลา ยังสามารถใช้ได้" แพทย์หญิงสุมนี กล่าว.