เข้าสู่ฤดูการเกณฑ์ทหาร หรือตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ประจำปี 2565 โดย "กองทัพบก" กำหนดตรวจเลือกพร้อมกันระหว่างวันที่ 1-20 เมษายนนี้ ยกเว้นวันที่ 6 และ 13-15 เม.ย. 65 พร้อมประกาศให้ชายไทยที่อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ จะต้องเข้าตรวจเลือกทหารพร้อมกันทั่วประเทศ เพราะจะเป็นบทพิสูจน์ก้าวแรกของชายไทย ที่จะทำหน้าที่ "ลูกผู้ชาย" อย่างสมบูรณ์แบบ เดินเข้าสู่รั้ว "กองทัพ" เข้าสู่ "หน่วยทหาร" รวมถึงได้สัมผัสชีวิตทหารอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ "กองทัพ" ได้กำหนดให้ผู้ที่เกิดใน พ.ศ.2544 ที่จะมีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ รวมถึงชายไทยผู้ที่เกิด พ.ศ.2536-2543 อายุ 22-29 ปี ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก หรือการตรวจเลือกยังไม่แล้วเสร็จ รวมถึงผู้ที่หมดสิทธิ์ผ่อนผัน และยกเลิกผ่อนผัน จะต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารหน่วยตรวจเลือกตามที่ได้ขึ้นบัญชีทะเบียนทหารในพื้นที่ 

ทบ. ตรวจเลือกทหาร 77 จว. ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19

กองทัพบก จะทำการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ ในปี 2565 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ที่จะดำเนินการพร้อมกันใน 77 จังหวัด 928 หน่วยตรวจเลือก โดยที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำต่อคณะกรรมการตรวจเลือกที่จะดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ รวมถึงให้เตรียมความพร้อมทั้ง บุคลากร สถานที่ ระบบการบริหารจัดการที่กระชับรวดเร็ว อำนวยความสะดวกให้ผู้เข้ารับการตรวจเลือกอย่างเต็มที่

...

ซึ่งในปีนี้ผู้ที่จะเข้ารับการตรวจเลือกทหาร ได้แก่ ชายไทยที่เกิด พ.ศ.2544 อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ กับผู้ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก ให้เตรียมตัวเข้ารับการตรวจเลือก ตามวัน เวลา และสถานที่ที่กำหนด ในหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35) พร้อมเตรียมเอกสารไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ได้แก่ บัตรประชาชน, ใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.9), หมายเรียกฯ (สด.35), วุฒิการศึกษา, ใบรับรองแพทย์ ส่วนผู้จะขอใช้สิทธิ์ต่างๆ เช่น ลดเวลาประจำการตามวุฒิการศึกษา หรือผู้ที่ขอผ่อนผันต่อ หรือขอสละสิทธิ์ผ่อนผัน รวมทั้งผู้ที่ต้องการสมัครเป็นทหาร ขอให้เตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเองการตรวจเลือกทหารกองประจำการ


ข่าวดี มียอดผู้สมัครเข้าทหาร ร้องขอกรณีพิเศษ ทำให้ยอดรับทหารเกณฑ์ลดลง

ทั้งนี้ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. ได้บอกข่าวดีสำหรับผู้ที่จะเข้ารับการตรวจเลือกทหาร สำหรับในปี 2565 ตามที่กองทัพบกได้คัดเลือกทหารกองประจำการไว้แล้วจำนวนหนึ่ง จากโครงการสมัครเป็นทหารกองประจำการ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ ที่รับผู้ที่มีอายุ 18-20 ปี และ 22-29 ปี สมัครเป็นทหาร ทำให้ยอดผู้ที่จะต้องเข้ามาเป็นทหารกองประจำการในปีนี้ลดลง

ดังนั้น กองทัพบก จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครเป็นทหาร ต้องแจ้งความประสงค์ต่อคณะกรรมการทันทีในวันที่มารับการตรวจเลือก โดยจะเปิดโอกาสให้มีการสมัคร หรือร้องขอเป็นทหารก่อน จากนั้นหากมีจำนวนผู้สมัครยังไม่ครบตามความต้องการของทางราชการ จึงจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก ตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม ในการพัฒนาการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ มุ่งสู่ระบบทหารกองประจำการอาสา ทดแทนการเรียกเกณฑ์ให้เป็นรูปธรรม


ย้ำตรวจเลือกทหารไม่เกิน 500 คน/วัน แต่ละขั้นตอนปลอดภัย

ขณะเดียวกัน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทบ. ได้เตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับการตรวจเลือกทหารในปีนี้ไว้อย่างรัดกุม กระชับ เน้นการปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคที่สอดคล้องกับมาตรการของสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ มุ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับการตรวจเลือก โดยได้กำหนดจำนวนผู้เข้ารับการตรวจเลือกไม่เกิน 500 คน/วัน สถานที่ทำการตรวจเลือกโล่ง โปร่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่างๆ แบ่งพื้นที่แต่ละขั้นตอนให้เป็นสัดส่วน และทำความสะอาดฆ่าเชื้อสถานที่ก่อนและหลังการตรวจเลือกในทุกวัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดการตรวจเลือก

สำหรับขั้นตอนการตรวจเลือกจะมีการคัดกรองผู้เข้าเกณฑ์เสี่ยง หรือเข้าข่ายเฝ้าระวัง การแยกพื้นที่เพื่อทำการตรวจคัดเลือกเฉพาะ ทั้งนี้หากผู้เข้ารับการตรวจเลือกมีประวัติเสี่ยง หรือมีอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ต้องแจ้งคณะกรรมการตรวจเลือกทันที เพื่อร่วมกันแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวม และเป็นการรักษาสิทธิ์ของตนเอง รวมทั้งขอให้เตรียมข้อมูลประวัติการรับวัคซีนโควิด-19 มาด้วย ทั้งนี้ขอความร่วมมือญาติ หรือผู้ปกครอง ให้กำลังใจบุตรหลานที่บ้าน หรืออยู่ในพื้นที่ที่ทางหน่วยตรวจเลือกจัดให้


นำกรรมการตรวจเลือก กักตัว 7 วัน พร้อมอยู่ในพื้นที่ควบคุมตลอด 30 วัน

นอกจากนี้ กองทัพบกได้เริ่มมาตรการกักตัวคณะกรรมการตรวจเลือก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีกำหนด 7 วัน และตรวจ ATK เพื่อให้ปลอดเชื้อ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจเลือกที่จะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย.นี้ โดยคณะกรรมการตรวจเลือกจะอยู่ในพื้นที่ควบคุมตลอดการตรวจเลือกเป็นเวลาประมาณ 30 วัน พร้อมชี้แจงคณะกรรมการตรวจเลือกในทุกกองทัพภาค ให้ทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติ นโยบาย ระเบียบ ให้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้มีความเข้าใจและนำไปปฏิบัติให้เกิดความเรียบร้อย

การตรวจเลือกทหารในปีนี้ "กองทัพบก" จึงได้เตรียมความพร้อมในกระบวนการตรวจเลือก บุคลากร สถานที่ ทุกขั้นตอนคำนึงถึงมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการตรวจเลือก จะเห็นได้ว่าในการตรวจเลือกภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ใน 2 ปีที่ผ่านมา ไม่พบการแพร่ระบาดจากการตรวจเลือกทหาร

"จึงขอให้มั่นใจในการเตรียมการของกองทัพบกในเรื่องดังกล่าว ที่พร้อมจะอำนวยความสะดวกให้ชายไทยที่เข้ามารับการตรวจเลือก ได้เข้าสู่กระบวนการเพื่อได้มาซึ่งทหารกองประจำการที่มีคุณภาพ สามารถปฏิบัติภารกิจงานด้านความมั่นคงเพื่อประเทศชาติ"


ทบ. สัมมนา "ผู้ฝึกทหารใหม่" เพื่อทำหน้าที่ดูแล ฝึก ให้เป็นไปตามนโยบาย

และเพื่อเตรียมความพร้อม ทบ. ยังได้จัดสัมมนา "ผู้ฝึกทหารใหม่" ซึ่งจะต้องทำหน้าที่ฝึกและดูแลทหารกองประจำการให้เป็นไปตามนโยบายการฝึกทหารใหม่ของกองทัพบก โดยมีผู้ฝึกทหารใหม่ในระดับนายทหารสัญญาบัตร 311 นาย จากหน่วยฝึกทั่วประเทศเข้าร่วมการสัมมนา ซึ่งครอบคลุมเนื้อหา ระเบียบ และหลักสูตรการฝึกทหารใหม่ แนวทางการฝึกแบบระบบปิด การป้องกันโควิด-19 การเฝ้าระวังการเจ็บป่วยจากความร้อน การบันทึกข้อมูล และการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์

โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เป็นผู้มอบนโยบายให้กับผู้ฝึกทหารใหม่ ด้วยการบรรยายเสริมให้ความรู้ด้วยตัวเอง ในเรื่อง 'แนวทางการพัฒนากำลังพลของกองทัพบก' เพื่อชี้ให้เห็นว่า ทบ.ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกบุคคลเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยทหาร พร้อมกับการดูแลเรื่องสิทธิ สวัสดิการต่างๆ ซึ่งทหารกองประจำการโดยเฉพาะทหารใหม่ เป็นกำลังพลที่กองทัพบกต้องดูแล การฝึกทหารใหม่จึงเปรียบเสมือนการสร้างคนให้กับกองทัพและประเทศชาติ เป็นสิ่งท้าทายสำหรับผู้ฝึกทหารใหม่ที่จะต้องทำให้บุคคลพลเรือนเปลี่ยนเป็นผู้ที่มีวินัย มีความสามารถทางทหาร ขอให้ได้พัฒนารูปแบบการฝึกเป็นรายบุคคล ไม่จำเป็นต้องมีการแข่งขันการฝึกทหารใหม่ในระดับหน่วย แต่อยากให้เข้าใจว่าทหารใหม่แต่ละนายมีความรู้ความสามารถไม่เหมือนกัน

"จึงต้องการให้ผู้ฝึกยึดถือระเบียบคำสั่ง ดูแลทหารใหม่อย่างถูกต้อง รอบคอบ มีสติ ให้ส่งเสริม หรือผลักดันตามความถนัดของทหารแต่ละบุคคล เพื่อทำให้เป็นคนที่มีคุณภาพและมีวินัย รวมทั้งการสร้างคนให้มีรายได้สามารถดูแลตนเองและครอบครัว มีความรู้ในการประกอบอาชีพเสริม และมีความภาคภูมิใจในการเป็นทหาร ส่วนหน่วยทหารที่ปฏิบัติงานราชการสนามชายแดน ต้องคัดบุคลากรและสร้างกำลังพลให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว"

กองทัพภาคที่ 1-4 แจกจ่ายคำสั่งแต่งตั้ง คกก.ตรวจเลือก ประจำปี 2565 

ขณะที่ กองทัพภาคที่ 1-กองทัพภาคที่ 4 ได้แจกจ่ายคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2565 ในเขตพื้นที่กองทัพภาคต่างๆ โดยมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงแต่ละกองทัพภาคเข้ารับคำสั่ง

โดยคณะกรรมการตรวจเลือกฯ ของ ทภ.1 มีจำนวน 46 คณะ ในพื้นที่ กทม. และ 25 จังหวัดภาคกลาง สำหรับยอดทหารกองเกินในพื้นที่ ทภ.1 ที่เข้ารับการตรวจเลือกมีจำนวน 75,625 นาย และมียอดเรียกเกณฑ์เข้ากองประจำการ จำนวน 19,591 นาย คิดเป็นร้อยละ 25.90

ส่วน กองทัพภาคที่ 2 มีผู้ที่ต้องเข้าตรวจเลือกจำนวน 115,987 คน แต่มีความต้องการเข้ากองประจำการ ของ ทภ.2 จำนวน 30,047 คน หรือร้อยละ 25.90 เป็นสัดส่วนเท่ากันทั่วประเทศ แต่ลดลงจากปี 2564 จำนวน 9,871 คน

สำหรับ กองทัพภาคที่ 4 มีผู้ที่ต้องเข้าตรวจเลือกจำนวน 49,394 คน มีความต้องการทหารกองประจำการในเขตพื้นที่ ทภ.4 จำนวน 11,664 คน แยกเป็น 3 เหล่าทัพ คือ ทัพบก จำนวน 6,825 คน ทัพเรือ จำนวน 4,000 คน และทัพอากาศ จำนวน 839 คน มีการตรวจเลือกในพื้นที่ 14 จังหวัด 151 อำเภอ ในห้วงระหว่างวันที่ 1-18 เมษายน 2565 นี้

โดย พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เน้นย้ำให้คณะกรรมการ ศึกษากฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ รวมถึงคู่มือวิธีการปฏิบัติในการตรวจเลือกฯ ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง พร้อมทั้งตอบคำถามข้อสงสัยต่างๆ ได้ รวมทั้งกำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต บริสุทธิ์ยุติธรรม โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมเสมอภาค 

เพิ่มสวัสดิการ ค่าตอบแทน สิทธิต่างๆ ทั้งมีโอกาสก้าวสู่การเป็นทหารอาชีพ

นอกจากนี้ "กองทัพบก" ได้มอบสิทธิสำหรับทหารกองประจำการในปัจจุบันประกอบด้วย ค่าตอบแทน 10,000 บาทต่อเดือน สิทธิรักษาพยาบาลฟรี การฝึกอาชีพก่อนปลด สิทธิพิเศษสอบเข้าโรงเรียนทหาร ส่งเสริมการต่อยอดเป็นนักเรียนนายสิบ โควตาเรียนหลักสูตรส่งทางอากาศ สมัครเป็นทหารกองประจำการต่อเมื่อครบกำหนดปลด รับแจกเครื่องแต่งกาย ของใช้ส่วนตัว มีประกันชีวิต และได้รับการศึกษาต่อในระบบ กศน.


และเพิ่มช่องทาง โอกาสให้กับผู้ที่มีใจรักในอาชีพทหาร ที่มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้เข้ามาเป็นทหารกองประจำการ จะได้รับการเสริมสร้างให้มีความรู้ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ รวมถึงการพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นทหารอาชีพในอนาคต

ดังนั้น "กองทัพ" คาดหวังว่าการตรวจเลือกทหารปีนี้ในห้วงวันที่ 1-20 เม.ย. จะผ่านพ้นไปด้วยดี เพราะทุกกองทัพภาคได้ยึดนโยบายกระทรวงกลาโหม ผ่าน "กองทัพภาค" สู่ระดับ "ผู้บังคับกองพัน" ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจเลือก ที่ลงทำหน้าที่เป็นในหน่วยตรวจเลือกทหาร จะต้องยึดความโปร่งใส เป็นธรรม และดำเนินการตรวจเลือกภายใต้ระบบ (Social Distancing)

ดังนั้นขอให้ชายไทยที่ได้เข้ารับการตรวจเลือกทหาร ให้มีความภูมิใจในการได้ทำหน้าที่ "ลูกผู้ชาย" และเมื่อได้เข้าสู่รั้วกองทัพ ก็จะได้เป็นน้องคนเล็กในการทำหน้าที่กำลังหลักของชาติ ทำหน้าที่สำคัญดูแลประเทศ และที่สำคัญได้ทำหน้าที่ชายไทยอย่างสมบูรณ์แบบ.

ผู้เขียน : ยุทธจักรเขียว

กราฟิก : sathit chuephanngam