ศบค. ยืนยันจัดงานสงกรานต์ได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรการ เน้นย้ำ ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม ขายและดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมเผยข้อปฏิบัติก่อน-หลังเทศกาลให้ปลอดภัยจากโควิด “บิ๊กตู่” สั่งเอาผิดคนฝ่าฝืน
วันที่ 18 มี.ค. 2565 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยหนึ่งในเรื่องสำคัญคือ มาตรการป้องกันโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า สามารถจัดงานได้ แต่ให้เป็นการจัดแบบประเพณีดั้งเดิม คือ รดน้ำดำหัว ในส่วนของการจัดกิจกรรมสันทนาการต้องขออนุญาต เนื่องจากจะเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมาก ทางด้านกรมอนามัย ได้ออกข้อแนะนำดังนี้
การเตรียมตัวก่อนร่วมงาน
- ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เข้าร่วมงานสงกรานต์ และกลุ่ม 608 ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
- ประเมินความเสี่ยงของตนเอง หากพบว่ามีอาการ หรือมีความเสี่ยง ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงาน หรือให้พิจารณาตรวจ ATK ก่อนเดินทาง/ร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง
- ขณะเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ งดรับประทานอาหารและงดดื่มแอลกอฮอล์
- ผู้จัดงาน และกิจการ/กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานสงกรานต์ให้ลงทะเบียนบนระบบ Thai Stop Covid 2 Plus (TSC2+) และประเมินตนเองตามประเภทมาตรการ COVID Free Setting ได้แก่ การจัดกิจกรรมพิเศษ (แสดงคอนเสิร์ต/ดนตรี งานอีเวนต์ งานเทศกาล มหกรรม) การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุมชน ศาสนสถาน ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ เป็นต้น
- การขออนุญาตจัดงานให้เป็นไปตามเขตพื้นที่สถานการณ์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานครกำหนด สำหรับการจัดกิจกรรมในชุมชนให้แจ้งต่อศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต.) หรือศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) ผู้นำชุมชน และกำหนดให้มีมาตรการในการควบคุมกำกับอย่างเข้มงวด
...
ระหว่างช่วงงานสงกรานต์
- พื้นที่จัดงานสงกรานต์ ที่มีการจัดเตรียมสถานที่และควบคุมกำกับ
- อนุญาตให้เล่นน้ำ และจัดกิจกรรมตามประเพณี เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การละเล่น การแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ การแสดงดนตรี โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมีการกำกับอย่างเคร่งครัด
- ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม จำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน
- กำหนดช่องทางเข้า-ออกจากงาน จัดจุดคัดกรอง และควบคุมความหนาแน่นในพื้นที่จัดงาน (1 ต่อ 4 ตารางเมตร)
- สวมหน้ากากตลอดเวลา พกเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่างตลอดเวลาที่ร่วมงาน
- พื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน ฯลฯ ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม
- กิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัว เช่น รดน้ำดำหัว การรับประทานอาหารร่วมกัน
- จัดกิจกรรมในที่มีการระบายอากาศได้ดี หรือที่โล่ง ไม่หนาแน่นหรือคับแคบ
- สวมหน้ากากตลอดเวลา งดกิจกรรมการสัมผัสใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกัน
- เลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน
- ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรได้รับวัคซีนให้ครบก่อนร่วมกิจกรรมสังสรรค์และสัมผัสใกล้ชิดลูกหลาน
- ผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงห้ามร่วมกิจกรรม
หลังกลับจากงานสงกรานต์
- สังเกตอาการตนเอง 7 วัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง และผู้ที่จะไปพบปะกับผู้คนจำนวนมาก หากพบว่ามีอาการสงสัยติดเชื้อให้ทำการตรวจ ATK
- ขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำเป็น ในช่วงการสังเกตอาการ
- พิจารณามาตรการ WFH ให้เป็นไปตามความเหมาะสม และการพิจารณาของหน่วยงาน
ทั้งนี้ การรดน้ำดำหัวมีการสัมผัสกันโดยตรง เน้นย้ำให้ผู้สูงอายุได้รับวัคซีน 3 เข็ม สวมหน้ากากอนามัย-หน้ากากผ้า เนื่องจากต้องอยู่ใกล้ชิดกับลูกหลานที่จะมาเยี่ยม และให้สงสัยไว้ก่อนว่าทุกคนมีเชื้อโควิด-19
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ยังเน้นย้ำในที่ประชุมด้วยว่า ขอให้ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง รวมกับสาธารณสุขอย่างเข้มงวดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย หากพบผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ก่อนโฆษก ศบค. จะทิ้งท้ายว่า สืบสานวัฒนธรรมไทย สงกรานต์วิถีใหม่ รับผิดชอบต่อครอบครัวและสังคม.