พปชร.เปิดตัว "อภิชัย-ลูกชาย" ยกเป็นพรรคมีคุณภาพ ผู้นำมีน้ำใจ-เสียสละ พร้อมลุยงานทันที คุมทัพศึกเลือกตั้งส.ก.ยัน ส่ง 50 เขต ลั่นกวาดให้ได้มากที่สุด ไม่เคยพูดไปพรรคเศรษฐกิจไทย ปัดตอบเป็นนายทุน พปชร.คนใหม่
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 17 มี.ค. 65 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค แถลงข่าวเปิดตัวนายอภิชัย เตชะอุบล นายอรรถวุฒิ เตชะอุบล บุตรชายสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค โดยนายวิรัช กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐได้มาต้อนรับนายอภิชัย ซึ่งมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีภารกิจ จึงได้มอบให้นายสันติมาเปิดตัวนายอภิชัย
โดยนายสันติ กล่าวต้อนรับว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่พรรคพลังประชารัฐ ได้สมาชิกใหม่คือ นายอภิชัย พร้อมบุตรชาย ที่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะมาช่วยกันเติมเต็มการทำงานให้กับพื้นที่ในกทม.
...
จากนั้น นายอภิชัย กล่าวว่า ขอบคุณเลขาธิการพรรคและนายวิรัชที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น ตนขอชี้แจงว่าตามที่ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ ซึ่งมีผลให้สิ้นสุดความเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตนอยากชี้แจงว่า 1.ต้องการแสดงออกถึงเสรีภาพทางการเมือง ตามหลักของกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อทำให้ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์มีบุคคลที่ทำหน้าที่แทนคือ ส.ส.บัญชีรายชื่อต่อไป ถือเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคคนอื่นได้มีโอกาสทำงานการเมืองด้วย ตนขอขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์อย่างสูง ที่ให้เกียรติและให้โอกาสสำหรับชีวิตในทางการเมืองมารับใช้ประชาชน และให้ความรู้สึกที่ดีในทางการทำงานมาโดยตลอด
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความแข่งขันสูงของพรรคการเมืองต่างๆ และ สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ย่ำแย่ในช่วงสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบมากพอสมควรสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งในการพัฒนาประเทศต้องปรับท่าทีและวิธีการทำการเมืองแบบใหม่ พรรคการเมืองจึงมีกลไกสำคัญต้องตัดสินใจที่แม่นยำรวดเร็วและเด็ดขาด ผู้นำที่แสดงออกถึงความมีน้ำใจเดียวกัน
2.ตนเล็งเห็นความสำคัญของการทำพรรคการเมืองที่มีคุณภาพและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุขในหลักความรับผิดชอบร่วมกัน มีผู้นำพรรคแสดงให้เห็นถึงการอุทิศและเสียสละส่วนตนให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศและทำการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข ดังนั้นตนจึงตัดสินใจเข้ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐนี่คือเหตุผล
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวย้ายไปพรรคเศรษฐกิจไทยแต่ทำไมเปลี่ยนใจมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ นายอภิชัย กล่าวว่า ตนยังไม่เคยพูดจะไปที่นั่น มีแต่ข่าวออกไป ตนยังไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อถามว่าเข้ามาในพลังประชารัฐจะรับผิดชอบพื้นที่กทม.ใช่หรือไม่ นายอภิชัย กล่าวว่า ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่จะมอบหมาย แต่เบื้องต้นที่คุยไว้ให้มาดูท้องถิ่น โดยเฉพาะ ส.ก. ที่จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ ซึ่งพลังประชารัฐจะส่ง ส.ก.ครบทั้ง 50 เขต และตัวผู้สมัคร ผู้ใหญ่ก็คัดเลือกมาเกือบครบแล้ว ตนก็ดำเนินการต่อทันที และคาดว่าจะทำให้พลังประชารัฐได้ ส.ก. มากที่สุด แม้ตนไม่มีประสบการณ์ในการทำงานในพื้นที่กทม. แต่ในฐานะบริหารธุรกิจมาค่อนข้างเยอะมาก จึงเชื่อว่าตรงนี้คงไม่ลำบากถ้าเรามีความตั้งใจจริงที่จะทำ
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวเข้ามาเป็นนายทุนคนใหม่ในพลังประชารัฐ นายอภิชัย กล่าวว่า "โอ๊ยอย่าไปพูดนายทงนายทุนอะไร"
เมื่อถามว่าความต่างระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์แตกต่างกันอย่างไรทำไมถึงตัดสินใจมาอยู่พลังประชารัฐ นายอภิชัย กล่าวว่า อย่าไปกล่าวถึงเขาเลยดีกว่า เราก็ออกมาแล้ว แต่เราก็พอใจที่มาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ ที่เราเชื่อมั่นว่า เราจะทำงานร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม นายอภิชัย กล่าวว่าในส่วนของลูกชายที่มาสมัครสมาชิกพรรควันนี้ คาดว่า จะลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
จากนั้นนายสันติ ได้สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐให้กับนายอภิชัยและนายอรรถวุฒิ พร้อมจับมือเพื่อเป็นการต้อนรับ และได้ถ่ายภาพหมู่กับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ.