รองนายกฯ จุรินทร์ หนุน “บิ๊กตู่” จัดกินข้าวพรรคเล็ก ชี้มีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล ส่วนตัวไม่ว่าง ส่ง เลขาธิการพรรค ปชป. ร่วมวงแทน ยืนกรานคำเดิม ยุบสภา เป็นเรื่องของนายกฯ คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้
วันที่ 15 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะนัดพรรคร่วมรัฐบาลทานอาหารมื้อค่ำ ในวันที่ 17 มีนาคม นี้ ว่า ตนเองทราบเรื่องแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดี และได้สนับสนุนตั้งแต่ต้น เพราะพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่พรรคแกนนำรัฐบาลก็ตาม ทุกพรรคที่มารวมกันเป็นรัฐบาลล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ส่วนเรื่องขนาดก็เป็นเรื่องของขนาด แต่ทุกพรรคก็มีความสำคัญ เพราะทุกพรรคมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
“ผมเคยพูดไปแล้วว่า ถ้าเสถียรภาพรัฐบาลมั่นคง แข็งแรง ก็มีผลต่อการแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนต่อไปด้วย ถ้าเสถียรภาพรัฐบาลง่อนแง่น ทิศทางอะไรที่กำหนดออกไปก็ดูไร้น้ำหนัก หรือขาดน้ำหนัก แต่ถ้าเสถียรภาพรัฐบาลเข้มแข็ง การแก้ปัญหาก็ดูเหมือนจะลุล่วงไปได้ง่ายขึ้น ประโยชน์จะตกกับประชาชน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ตอบรับนัดไปแล้วหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญหา สำหรับตนเองนั้น ได้บอกกับท่านนายกฯ ไปแล้วว่า ติดภารกิจที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะได้นัดเกษตรกรจำนวนมากที่แม่ฮ่องสอน และได้กำหนดการไว้ก่อนหน้านานแล้ว แต่ได้แจ้งกับนายฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ขอให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนพรรคไปร่วมงานนี้ด้วย โดยก็รับนัดแล้ว ส่วนจะมี ส.ส. คนอื่นไปร่วมงานนี้ด้วยหรือไม่ ขอดูก่อน ถ้าจะมีใครร่วมไปด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเลขาธิการพรรคเป็นตัวการพรรคแล้ว
...
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกระแสข่าวจากการพูดคุยกับพรรคเล็กวานนี้ว่าจะมีการยุบสภาหลังการประชุมเอเปค มองเรื่องนี้อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบข้อเท็จจริง เดี๋ยวก็ต้องตอบว่าต้องไปถามนายกฯ อีก ซึ่งก็ต้องตอบอย่างนั้น เพราะคนมีอำนาจยุบสภาคือนายกฯ เพราะตนเองไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบได้ และไม่ทราบด้วยว่าจริงหรือไม่จริงอย่างไร พร้อมขอไม่ออกความเห็นว่า เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอควรหรือไม่ เพราะการยุบสภาหลายครั้งที่เกิดมาในอดีตก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย
“บางครั้งคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ บางทีก็เป็นอุบัติเหตุทางการเมือง หรือจะมาจากเงื่อนไขอื่นๆ ซึ่งนอกเหนือการคาดคะแน บางทีเราอาจจะคิดว่าไม่มี แต่สุดท้ายมันอาจจะมีก็ได้ หรือคิดว่ามันต้องมีแน่ แต่สุดท้ายมันไม่มี มันก็เป็นไปได้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ดังกล่าว มองว่าการทำงานของรัฐบาลน่าจะประสบความสำเร็จไปส่วนหนึ่งแล้วหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเองดูความพยายามของนายกฯ ก็คงตั้งใจที่จะทำหน้าที่