“แรมโบ้-บิ๊กโจ๊ก” ถกแก้สลากแพง วางกรอบ 2 เดือนเห็นผล จ่อให้โควตาอำเภอละ 25 เล่ม ขายเกิน 80 จับได้ตัดสิทธิ์ทันที เผย “บิ๊กตู่” กำชับต้องทำให้สำเร็จ มั่นใจแก้ได้ในรัฐบาลนี้แน่นอน


วันที่ 11 มี.ค. 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด นัดแรก โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการ ผู้แทนจากอัยการสูงสุด เข้าร่วม

นายเสกสกล ย้ำในที่ประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามการทำงานของคณะกรรมการชุดใหญ่ และ 3 คณะอนุกรรมการฯ ที่จะขับเคลื่อนการแก้ปัญหาสลากเกินราคา โดยต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมถึงขายเกินราคา และขอให้ทำให้สำเร็จเพื่อเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาล เนื่องจากปัญหาสะสมมาหลายรัฐบาลแล้ว และต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด

พร้อมระบุด้วยว่า หากมีใครนำชื่อตนหรือคนในอนุกรรมการไปแอบอ้าง ขอให้แจ้งมาเพื่อดำเนินคดีทันที ยืนยันว่าอนุกรรมการไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใดๆ ทำตามบัญชานายกรัฐมนตรีให้เป็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือตั้งคณะกรรมการขึ้นมา พร้อมฝาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ช่วยพิจารณา อยากให้มีชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อไปจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

“ดังนั้น คณะทำงานจึงต้องเร่งรัดการทำงานเพื่อให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ 2 เดือน เพื่อสรุปสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ได้ผลในทางปฏิบัติให้ได้ภายในเดือน พ.ค. 2565 วันนี้จึงได้วางกรอบการทำงานให้เป็นรูปธรรม บริหารจัดการอย่างมืออาชีพ”

...

สำหรับแนวทางแก้ปัญหา คือ ตัวแทนที่จะขายแต่ละอำเภอจะได้โควตาคนละ 25 เล่ม โดยขายให้ทุกอำเภอผ่านระบบลงทะเบียนแอปพลิเคชัน ถุงเงิน และ QR Code ใครจะซื้อต้องแจ้งผ่าน QR code ในราคา 80 บาท เท่ากับแต่ละอำเภอจะมีการขายสลากประมาณ 20,000 ใบ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างแน่นอน ถ้าใครขายเกินราคายกเลิกสัญญาและเสียสิทธิ์ทันที

ส่วนการซื้อจองล่วงหน้าเป็นระบบเสรีจากการลงทะเบียน ขณะนี้มียอดประมาณ 100,000 คน และกำลังให้สมัครเพิ่มเติม ใครขายก็จะมีระบบตรวจสอบ ถ้ามีการขายช่วงต่อจะถูกตัดสิทธิ์เช่นกัน และหากไปรับสลากที่ไปรษณีย์ ห้ามมอบอำนาจให้ใครไปรับแทน ยกเว้นมีเหตุจำเป็นต้องมีใบมอบอำนาจที่มีเหตุผลชัดเจน โดยการขายลักษณะนี้ก็จะมีการตรวจสอบและแจ้งเข้ามาในระบบ QR Code ซึ่งมาตรการนี้คิดว่าควบคุมได้ แต่ยังเป็นเพียงข้อเสนอซึ่งต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่

ขณะที่การขายในระบบแพลตฟอร์มให้ซื้อตรงที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือผ่านทางฟอร์มของตัวเองผ่านมือถือ ซึ่งจะควบคุมง่าย ไม่สามารถซื้อเกิน 80 บาทได้ นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นๆ อีกหลายแนวทาง แต่คิดว่ามาตรการเหล่านี้น่าจะพอไปได้ และในระยะยาวต้องมีการแก้กฎหมายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้มีบทลงโทษที่รุนแรง ดำเนินคดีทางอาญาและแพ่ง ทั้งจำทั้งปรับ รวมไปถึงกฎหมายสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งวันที่ 18 มี.ค. 2565 จะประชุมอีกรอบ และทำข้อสรุปให้ตกผลึกเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมชุดใหญ่ต่อไป

“ขอย้ำว่าให้หยุดเอาเปรียบประชาชน ช่วยกันควบคุมราคาให้อยู่ใน 80 บาท ถ้าใครขายเกินราคาโดยเฉพาะนายทุนใหญ่ ตำรวจเจอจุดไหนจะปฏิบัติการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทันที ไม่ละเว้นใครไว้ทั้งสิ้น เพราะรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน และนายกฯ กำชับว่าต้องทำให้สำเร็จ”

นอกจากนี้ นายเสกสกล ยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายใหญ่ไม่มีแล้ว 5 เสือไม่มีแล้ว ทุกวันนี้กองสลากกระจายไปคนละ 5 เล่มทั่วประเทศ ที่เหลือเป็นผู้พิการ มูลนิธิต่างๆ ซึ่งระบบซื้อจองที่กระจายคนละ 5 เล่ม ต้องไปขาย 80 บาท อย่าขายช่วงต่อเพราะจะทำให้เกิดการขายเกินราคา และจากนี้จะมีการตรวจสอบว่าเอาไปขายจริงหรือไม่ ถ้าได้โควตาแล้วแต่ไปขายต่อจะมีมาตรการยึดคืน ทุกคนต้องมีวินัย ไม่เช่นนั้นจะเสียโอกาสเสียรายได้ของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสลากขายแพงเกิดจากกฎหมายกองสลากหย่อนยาน ไม่เข้มงวด ต้องแก้ไข มาตรการปล่อยสลากออกไปแล้วไม่มีการกำหนดกรอบควบคุมที่ชัดเจนว่าเอาไปขายต่อที่ไหนอย่างไร จะมีการควบคุม ตรวจสอบ และรายงานมาด้วยระบบ QR Code ถ้าใครไม่แจ้งก็เท่ากับไม่ปฏิบัติตาม จะเสียสิทธิ์ จากนี้จะเริ่มใช้มาตรการ ขอให้เชื่อมั่นว่าคณะกรรมการในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาอยู่ที่ราคา 80 บาท ได้อย่างแน่นอน.