ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่าคณะกรรมาธิการจะเร่งพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ อันได้แก่กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายพรรคการเมืองให้แล้วเสร็จก่อนเปิดประชุมรัฐสภา ในวันที่ 22 พฤษภาคม พร้อมสำหรับการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่ แต่ดูเหมือนว่าจะยังมีความเห็นต่างเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.

มีร่างที่ต้องพิจารณาอยู่หลายร่าง เช่น ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ร่างของพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายหนึ่งยืนยันว่าการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ต้องยึดแบบคู่ขนานตามรัฐธรรมนูญ 2540 อีกฝ่ายเสนอให้ใช้สูตรจัดสรรปันส่วนผสมที่เคยใช้ในการเลือกตั้ง 2562 โดยให้นำบัตรเลือกตั้ง ส.ส.เขต และคะแนนพรรคมารวมกัน

จากนั้นจึงคำนวณเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคจะได้ แต่วิธีการนี้มีเสียงคัดค้านมาก เพราะผลอาจเป็นแบบเดียวกับการเลือกตั้ง 2562 จะมีพรรคใหญ่พรรคเล็กและพรรคจิ๋ว ยกขบวนเข้าสภาหลายสิบพรรค อาจส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่มีพรรคมากที่สุดในโลก แต่มีรัฐบาลที่อ่อนแอ เพราะเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค

มีเสียงวิจารณ์จากนักวิชาการว่า แม้นักการเมืองส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการเลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบ แต่มุ่งชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งมากกว่า ไม่ได้มุ่งที่จะพัฒนาระบบพรรคให้เป็นพรรคขนาดใหญ่ สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้พรรคเดียว หรือรัฐบาลผสมน้อยพรรค แข่งขันกันด้านนโยบาย เป็นรัฐบาลที่มั่นคงและแก้ปัญหาชาติได้

ถ้าดูการเมืองของประเทศประ ชาธิปไตยที่ใช้ระบบรัฐสภาพัฒนาทั่วโลกจะพบว่าทุกประเทศล้วนเป็นระบบน้อยพรรค มีพรรคใหญ่ๆก็แค่ 2 พรรค แข่งขันกันเสนอนโยบายและตัวบุคคลให้ประ ชาชนเลือก พรรครัฐบาลหรือแกนนำรัฐบาล ต้องคุมเสียงข้างมาก เช่น อังกฤษ เยอรมนี หรือแม้แต่ญี่ปุ่นในเอเชีย

การที่ประเทศมีพรรคมากที่สุดในโลก เช่น การเลือกตั้ง 2562 มีพรรคลงแข่งขันถึง 70-80 พรรค ไม่ได้สะท้อนว่าเป็นประชาธิปไตยที่มั่นคง แต่สะท้อนถึงความอ่อนแอของประชาธิปไตย ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือรัฐบาลปัจจุบันที่อยู่ในอาการร่อแร่ เพราะเป็นระบบหลายพรรค และมีเสียงข้างมากที่ไม่มั่นคงแน่นอน

...

รัฐบาลปัจจุบัน เป็นรัฐบาลผสมกี่พรรค คนทั่วไปอาจไม่รู้แน่นอน อาจเป็นรัฐบาลผสมสิบกว่าพรรค และมี ส.ส. รัฐบาลอยู่เท่าไร ก็ไม่แน่ชัด เพราะมีการย้ายพรรคทั้งเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ตัวเลข 260 อาจเป็นแค่ราคาคุย แม้แต่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าพรรค พปชร. ก็อาจไม่รู้ รัฐบาลมี ส.ส.กี่คน.