พญ.สุมนี เผย สถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นช่วงขาขึ้น ชี้หากผ่อนคลายมากขึ้น ผู้ติดเชื้ออาจพุ่งไปยังเส้นสีแดง คาดสูงสุดช่วงกลาง เม.ย.นี้ 4-5 หมื่นราย/วัน สั่งรวมศูนย์คอลเซ็นเตอร์รับสายผู้ติดเชื้อ

วันที่ 3 มีนาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ระบุว่า ขณะนี้สายด่วน 1330 ของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการติดต่อเข้ามาจำนวนมาก โดยเช้าวันนี้ ในที่ประชุม ศบค. ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว โดยพบว่ามีหน่วยงานอื่น เช่น ทหารเข้ามาช่วยรับสายแล้วจำนวน 300 นาย นอกจากนี้ยังมีจิตอาสา และอื่นๆ มาช่วยเพิ่มเติม จึงแนะนำว่านอกจากสายด่วน 1330 แล้ว ยังมีไลน์แอดของ สปสช. และเว็บไซต์ที่สามารถลงทะเบียนได้ ขณะเดียวกันในที่ประชุมวันนี้ยังได้หารือจะมีการรวมศูนย์คอลเซ็นเตอร์ต่างๆมาช่วยรับสายเพิ่มเติม แต่หากผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงให้โทรหา 1669 ได้ทันที

...

ส่วนการคาดการณ์สถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นช่วงขาขึ้น หากยังมีการคงมาตรการอยู่ ไทยจะยังอยู่ที่เส้นสีเหลือง หากมีการผ่อนคลายมากขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นไปยังเส้นสีแดงได้ โดยคาดว่าจะขึ้นไปสูงสุดในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ ประมาณ 4-5 หมื่นราย/วัน และจะค่อยๆ ลดลง หากยังทำตามมาตรการ อยู่ห่าง ล้างมือ ไม่ไปที่คนแออัด แต่หากย่อหย่อนมาตรการอาจจะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงไปอีกได้ แต่หากจะให้ดีคือเส้นสีเขียว มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 2 หมื่นคน ที่มีการคาดการณ์กันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงประมาณปลายเดือนพฤษภาคม

พญ.สุมนี ยังกล่าวต่อว่า การระบาดในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยังเป็นเชื้อโอมิครอน มีผู้ป่วยปอดอักเสบน้อยลง แต่มีการคาดการณ์ว่าหากยังคงมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบันจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบจะมีมากช่วงต้นพฤษภาคม จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วน ยังคงเข้มมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด รวมกับมาตรการองค์กร เพราะขณะนี้ยังอยู่ในการเตือนภัยระดับที่ 4 คือ ห้ามรวมกลุ่ม การชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด ทำงานที่บ้านให้มากที่สุด และเร่งรัดการมาฉีดวัคซีน

ขณะที่คลัสเตอร์ที่พบมากที่สุด พญ.สุมนี รายงานว่าคือ ในสถานพยาบาล การติดเชื้อในกลุ่มแพทย์ ที่กรุงเทพมหานคร 85 คน, ชลบุรี 26 คน, สมุทรปราการ 18 คน, นราธิวาส 15 คน, ปทุมธานี 14 คน, สุราษฎร์ธานี บึงกาฬ ปัตตานี 11 คน, นนทบุรี ฉะเชิงเทรา 9 คน ถัดมาเป็นคลัสเตอร์โรงเรียนและสถานศึกษา พบที่ร้อยเอ็ด 9 คน, อยุธยา 7 คน นอกจากนั้นพบเป็นคลัสเตอร์ขนาดเล็กน้อยกว่า 6 คน เป็นที่ ปราจีนบุรี กาฬสินธ์ ชลบุรี เพชรบุรี และมหาสารคาม

ส่วนคลัสเตอร์ตลาดยังเป็นกลุ่มที่พบต่อเนื่อง โดยพบที่สมุทรสาครถึง 30 คน, เพชรบุรี อุบลราชธานี จันทรบุรี ขอนแก่น ลพบุรี และมุกดาหาร สำหรับการติดเชื้อที่พบน้อยลง มี 3 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์โรงงานและสถานประกอบการ พิธีกรรมและศาสนา และงานแต่ง ส่วนคลัสเตอร์ร้านอาหารพบน้อยลงกว่าเดิมมาก