ส.ส.ปชป. ร้องศาลขอไต่สวนฉุกเฉินระงับเงินเยียวยา แจง 5 สาเหตุเสียหาย ยันไม่มีกฎหมายรองรับ ชี้มติ ครม.เลือกปฏิบัติไม่ครอบคลุม ขณะล่าสุดศาลฯยกคำร้องแล้ว..
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวก่อนเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ไต่สวนฉุกเฉินให้มีการคุ้มครองชั่วคราวกรณีที่ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ให้จ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมทางการเมืองว่า การไปยื่นเพื่อให้เห็นว่าหากมีการใช้มติ ครม.นี้จะเป็นอันตราย โดยมีเหตุผล 5 ประเด็นคือ 1.หากปฏิบัติตามมติ ครม.จะทำให้การจ่ายเงินขัดต่อหลักกฎหมาย เนื่องจากไม่มีรายละเอียดหรือหลักเกณฑ์มารองรับการจ่ายเงินดังกล่าว และตามบันทึกข้อความของสำนักนายกรัฐมนตรีวันที่ 10 ม.ค. 2555 ได้ยืนยันว่ามติ ครม.ในครั้งนี้ไม่อยู่ในกรอบของกฎหมายและแนวทางที่เคยปฏิบัติมา 2.หากปฏิบัติตามมติดังกล่าวจะทำให้สังคมเกิดความแตกแยก เมื่อมีการเปรียบเทียบกับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และการเยียวยาในกรณีอื่นๆ เช่น เหตุการณ์ที่ตากใบ และกรือเซะ ซึ่งถือเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกัน
นายสาธิต กล่าวต่อว่า 3. มติ ครม.อาจทำให้คนในสังคมไม่เคารพต่อกฎหมายในอนาคต เพราะคนที่กระทำความผิดต่อกฎหมายก็จะได้รับการเยียวยา 4.ทำให้สูญเสียวินัยทางการเงิน การคลัง ยากที่จะกลับคืนสู่สภาพเดิม และ 5.สร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม เพราะโดยหลักจะต้องมีหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ชัดเจนอย่างมีมาตรฐาน โดยมีกฎระเบียบรองรับ แต่มติ ครม.นี้ไม่มีมาตรฐานหรือกฎระเบียบใดๆ รองรับ ทำให้กระบวนการยุติธรรมเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น จึงขอให้ศาลปกครองได้ไต่สวนฉุกเฉินมีคำสั่งคุ้มครองระงับมติดังกล่าว ก่อนที่จะมีการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งหากศาลมีความเห็นตรงกันก็จะดำเนินการไต่สวนทันที ซึ่งอาจจะเป็นวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) หรือขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ซึ่งตนมั่นใจว่าจะสามารถระงับมติ ครม.ดังกล่าวได้ เพราะเหตุผลที่เสนอไปล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่คนในสังคมเห็นด้วย และไม่มีการบิดเบือนข้อมูล ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรัฐบาลจะสามารถออกระเบียบมารองรับมติ ครม.ดังกล่าวในภายหลังได้หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ต้องไม่ขัดกับหลักใหญ่ แต่ก็ยังเชื่อว่า ขัดกับหลักใหญ่อยู่ดี เพราะมติ ครม.ที่ออกมาไม่ครอบคลุมและเลือกปฏิบัติ ส่วนกรณีที่นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม จะไปประท้วงและให้ของขวัญตนที่สภาฯ และถ้าไม่ออกมาพบก็จะยืนรอจนถึงวันที่ 20 ม.ค. ว่า ไม่ต้องไปข้างถนนหน้าสภาฯ แต่อยากเชิญแม่น้องเกดและญาติผู้เสียชีวิต มาพบกันที่ห้องรับรองสภาฯ อย่างมีเหตุผลและเนื้อหาสาระ เพราะที่ตนดำเนินการยื่นศาลปกครองไปนั้น ไม่ได้ขัดขวางว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินเยียวยาให้แม่น้องเกด แต่ทักท้วงว่าเป็นเรื่องสองมาตรฐาน สร้างความขัดแย้งของคนในสังคมมากขึ้น และไปบั่นทอนขวัญกำลังใจของข้าราชการ ทหาร ตรำวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ แล้วสูญเสียแต่ไม่ได้รับการเยียวยาเท่าเทียมกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง
“จึงอยากให้แม่น้องเกด ไปศึกษาคำขอท้ายฟ้องที่ผมยื่นต่อศาลปกครองไป ก็จะเข้าใจถึงเจตนาการปฏิบัติหน้าที่ของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่สำคัญแม่น้องเกดควรเห็นใจและเข้าใจผู้ที่สูญเสียในสถานการณ์อื่น ที่เป็นกรณีเดียวกันด้วยว่าควรได้รับการเยียวยาอย่างเท่าเทียมกัน เว้นแต่แม่น้องเกดเห็นแก่ได้ เห็นกับตัวเองและพวกพ้อง จึงไม่สนใจผู้สูญเสียในกรณีอื่นๆ ที่อยู่ในฐานะเดียวกัน” นายสาธิต กล่าว
...
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ศาลปกครองได้ยกคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินตามที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อให้พิจารณาระงับมติของคณะรัฐมนตรี ที่ให้เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมืองแล้ว เพราะเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นต้องไต่สวนฉุกเฉิน จึงเห็นควรให้ยกคำร้อง