“อนุทิน” รองนายกฯและรมว.สธ. เผย สธ.จ่อเสนอ ศบค.คลายล็อก เปิดทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปรับพื้นที่สี เพิ่มจังหวัดแซนด์บ็อกซ์ แต่ยังไม่ถกเปิดผับ-บาร์ กำชับองค์การเภสัชฯ เร่งจัดหา ATK เพิ่ม แต่ห้ามขายเอากำไร

18 ม.ค. 65 ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการประชุมร่วมกับ ศบค. ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคมนี้ ว่า

ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขึ้นมา คือ เรื่องของการปรับพื้นที่สี เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายในเรื่องของการใช้ชีวิตมากขึ้น รวมไปถึงการขอความเห็นกรณีเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย จะมีการเปิดลงทะเบียนเทสต์แอนด์โกอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ในประเด็นดังกล่าวต้องประเมินสถานการณ์ทั้งในไทยและต่างประเทศด้วย ต้องไปดูสถานการณ์ของประเทศต้นทาง เพราะประเทศไทยก็ไม่อยากเข้าไปเสี่ยง ขอย้ำว่า จากการประเมินเฉพาะในประเทศไทย จาก 18 วันที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปีใหม่ เราดูเรื่องของยอดการติด ป่วยหนัก และยอดการสูญเสีย ที่อยู่ในระดับ 1 ต่อ 1,000 ผู้ติดเชื้อ ตามหลักวิชาการเราอยู่ในจุดที่รับมือได้ สถานการณ์ระบาดได้ชะลอตัวมาร่วม 2 อาทิตย์แล้ว นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กระทรวงฯ ต้องกลับมาหารือเรื่องคลายล็อก นอกจากนั้นเรากำลังพิจารณาเพื่อเพิ่มจังหวัดแซนด์บ็อกซ์ ส่วน กทม.อยู่ในส่วนการปกครองของกรุงเทพมหานคร ทางกระทรวงสาธารณสุขจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการปฏิบัติงาน

ในประเด็นเรื่องสถานบันเทิง ผับ บาร์ จะยังไม่มีการพิจารณาในรอบการประชุมนี้ เพราะยังเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ การผ่อนคลาย เราต้องพิจารณาความสามารถในการควบคุม ถ้าเปิดแล้วควบคุมได้ เราก็พร้อมคลายล็อก แต่ถ้าเปิดแล้วควบคุมยาก ถึงควบคุมไม่ได้ ก็ต้องพิจารณากันให้ละเอียด สำหรับเรื่องวัคซีน ปีนี้ประเทศไทยยืนยันการจัดหาที่ 120 ล้านโดสแล้ว เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากปัจจุบันเราให้ความสำคัญกับเข็มบูสเตอร์ ซึ่งระหว่างนี้ก็สามารถจัดหาวัคซีนเข้ามาเพิ่มได้อีก ขอย้ำว่าวัคซีนสามารถป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต ที่สถานการณ์ไทยมีความสูญเสียต่ำก็เนื่องจากได้เรื่องของประสิทธิภาพของวัคซีนเข้ามาช่วย ขอให้คนไทยเข้ามารับวัคซีน เราไม่ต้องการเห็นความสูญเสีย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ประเทศไทยพยายามฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรมากที่สุด เราฉีดให้เด็กตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป ในอนาคตอันใกล้เราจะเริ่มฉีดให้เด็กอายุ 5 ขวบด้วย

...

“สำหรับเรื่องชุดตรวจ ATK ปัจจุบันมีความต้องการอยู่มาก ต้องขอบคุณความตื่นตัวของประชาชน ทั้งนี้ได้มอบนโยบายให้องค์การเภสัชกรรมจัดหาชุดตรวจมาให้ประชาชน ห้ามจำหน่ายเกินทุน เราต้องไม่หวังกำไร แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้คนไทย สถานการณ์ปัจจุบันนี้มียอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นทุกฝ่ายยังประมาทไม่ได้”.