ครม.เคาะ ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบ e-Payment หนุนนายจ้างใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นและลูกจ้างได้รับความคุ้มครอง   

วันที่ 4 ม.ค. 65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) พ.ศ..... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการขยายกำหนดเวลายื่นแบบฯ ออกไปอีก 7 วันทำการ นับแต่วันที่พ้นกำหนดวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้  

ทั้งนี้ ร่างประกาศกระทรวงแรงงานฯ ฉบับนี้ จะมาทดแทนประกาศฉบับเดิมที่เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 2562 และสิ้นสุดในเดือน ธ.ค. 2564 ซึ่งประกาศฉบับเดิมนั้นได้กำหนดให้นายจ้างจะต้องหักค่าจ้างของผู้ประกันตนและให้ถือว่าผู้ประกันตนทุกครั้งที่มีการจ่ายค่าจ้างตามจำนวนที่ต้องนำส่งเป็นเงินสมทบและให้นายจ้างนำเงินสมทบทั้งส่วนของลูกจ้างและนายจ้างส่งแก่สำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้พร้อมยื่นแบบรายการแสดงการนำส่งเงินดังกล่าว  

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2564 ได้เห็นว่า เพื่อส่งเสริมและรองรับความสะดวกในการประกอบธุรกิจของนายจ้าง และเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตนให้ได้รับความคุ้มครอง และสนับสนุนให้นายจ้างทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเห็นชอบให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) ออกไปอีก 7 วัน นับแต่วันที่พ้นกำหนดวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้ และนำเสนอต่อ ครม. และประกาศมีผลบังคับสำหรับค่าจ้างตั้งแต่เดือนที่ประกาศมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 24 เดือนต่อไป.

...