ขอกล่าวคำว่า “สวัสดีปีใหม่ 2565” กับท่านผู้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐทุกท่าน อ่านบทสัมภาษณ์ของกูรูหลายสำนัก ต่างคาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะเป็นปี “เสือทะยาน”

หลังจากต้องซึมเศร้าจากพิษโควิด-19 มากว่า 2 ปี จนเศรษฐกิจโลกรวนไปหมด แต่ตอนนี้สัญญาณบ่งชี้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น

วันที่ผมเขียนต้นฉบับ คือวันที่ 1 มกราคม วันเริ่มต้นปี 2565 พอดี ดูบรรยากาศการจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า 2564 ต้อนรับปีใหม่ 2565 ทั้งในไทยและทั่วโลกแล้ว

ก็ต้องบอกว่าเป็นการฉลองที่คึกคักพอสมควร ท่ามกลางความอึดอัดอัดอั้นกันมา 2 ปีเต็มๆ

ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด ก็เริ่มขยับขึ้นมาตามที่หลายคนเป็นห่วง

คงต้องย้ำเตือนกันอีกสักรอบว่า พึงระวังตนเองในขั้นสูงสุดต่อไป

แม้ ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผอ.องค์การอนามัยโลก จะออกแถลงการณ์ในวันปีใหม่ 2565 ประกาศความเชื่อมั่นว่า มนุษย์จะสามารถเอาชนะการระบาดของโควิดได้ในปีนี้

แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ทุกประเทศต้องทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะต้องระวังเรื่องแนวคิดชาตินิยมที่คับแคบ และการกักตุนวัคซีนที่จะบ่อนทำลายความเท่าเทียม สร้างเงื่อนไขให้เกิดเชื้อกลายพันธุ์แบบ “โอมิครอน” ขึ้นมาอีก ความเสี่ยงที่ไวรัสจะวิวัฒนาการไปในทางที่เราป้องกันหรือคาดเดาไม่ได้ก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น

นั่นคือสถานการณ์ที่ทั่วโลกยังต้องอยู่ร่วมกับไวรัสโควิดต่อไป

หันมาดูสถานการณ์ภายในไทยบ้าง นอกจากเรื่องโควิดแล้ว ในปี 2565 สถานการณ์การเมืองจะกลับมาดุเดือดอีกครั้ง

เพราะเป็นการ “นับเคาต์ดาวน์” ปีสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ ด้วยปัจจัยองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้ง ปัจจัยภายใน คือปัญหาในตัวรัฐบาลเอง

...

ความขัดแย้งกันในพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส. รออยู่ 3 เขตพื้นที่, การเลือกตั้งท้องถิ่นอย่าง กทม. เมืองพัทยา, การจัดทำงบประมาณปี 2566, การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นผลงานกัน ในช่วงใกล้จะหมดวาระ หวังไปใช้หาเสียงในศึกเลือกตั้งใหญ่ที่รออยู่ ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีกระบวนการตรวจสอบตามระบบรัฐสภา ทั้งการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่คาดว่าฝ่ายค้านจะยื่นได้กลางเดือน ม.ค.นี้ โดยน่าจะไปอภิปรายกันได้ช่วงต้นเดือน ก.พ.

ยังมีดาบสองรอซ้ำ ด้วย การขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ที่ให้ดาบอาญาสิทธิ์แก่ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาลได้ทั้งคณะ หรือจะแยกชำแหละรัฐมนตรีเป็นรายตัวก็ได้

ยังมีประเด็นข้อกฎหมายที่คาราคาซัง ปมวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่น่าจะถูกลากเข้าไปสู้กันในศาลรัฐธรรมนูญ

ทุกปัจจัยภายในเหล่านี้ ล้วนสะสมความขัดแย้งให้ปะทุได้ตลอดเวลา

ส่วนปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มที่เห็นต่าง รวมถึงกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารงานของรัฐบาล ก็น่าจะดุเดือดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

เชื่อว่าในปี 2565 จะเป็นปีแห่งการยกระดับการชุมนุม ของกลุ่มม็อบต่างๆ

เพื่อรุกฆาตใส่รัฐบาล

ก็ต้องรอดูว่า “บิ๊กตู่” จะดื้อแพ่งไปได้อีกกี่น้ำ.

เพลิงสุริยะ