"สุดารัตน์" นำ คาราวานสร้างไทย ลุย จังหวัดชายแดนใต้ เปิดสำนักงานพรรค ประกาศยกระดับ "จ.สงขลา" กลับมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ชวนชาวใต้ร่วมอุดมการณ์สร้างเศรษฐกิจ-ประชาธิปไตยให้ประเทศ
วันที่ 25 ธ.ค. คาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด ลงพื้นที่ชายแดนใต้ เริ่มต้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายโภคิน พลกุล นายวิจักร อากัปกริยา นายเทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน นายกัณวีร์ สืบแสง และ พ.ต.อ.ดร.วิชัย วิชยานฤพล ทีมไทยสร้างไทยสงขลา พร้อมคณะเริ่มต้นพบปะพี่น้องประชาชน โดยขึ้นขบวนคาราวานสร้างไทย ทักทายชาวสงขลา ในพื้นที่เศรษฐกิจ ย่านตลาดกิมหยง ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้จะเพิ่งเริ่มต้นทำงานทางการเมืองได้ไม่นาน ซึ่งที่ตลาดกิมหยง คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้รับฟังปัญหาจากพ่อค้าแม่ขาย ถึงสภาพ เศรษฐกิจที่ซบเซา นักท่องเที่ยวบางตา ขณะเดียวกัน ยังพบว่า ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ส่งผลให้กำลังซื้อหดหาย ผู้ประกอบการหลายรายจำต้องยุติการดำเนินกิจการ
นอกจากนี้ พรรคไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้ทำพิธีเปิด สำนักงานพรรคไทยสร้างไทย จังหวัดสงขลา พร้อมย้ำว่า คาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด เป็นเครื่องมือสำคัญของพรรคไทยสร้างไทย ในการรับฟังเสียงประชาชน โดยตั้งใจจะไปให้ครบทุกจังหวัด รับฟังทุกความต้องการ เพื่อให้ทุกนโยบายออกมาจากพี่น้องประชาชน เช่นที่จังหวัดสงขลา พรรคไทยสร้างไทยมีเป้าหมายหลัก ที่จะทำให้ หาดใหญ่ สงขลา กลับมาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอีกครั้ง ตลาดกิมหยงจะไม่ใช่ตลาดร้างอีกต่อไป แต่ต้องเป็นศูนย์กลางในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการกลับคืนมา
...
เพื่อให้คนตัวเล็กมีที่ทำมาหากิน และที่สำคัญสงขลาต้องเป็นศูนย์กลาง ในการแปรรูปยางพาราอย่างครบวงจร รวมถึงเป็นศูนย์กลางแปรรูปสินค้าเกษตรให้เกิดขึ้นจริง โดยมีเป้าหมายให้ทุกคน ลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด เข้มแข็งที่สุด ต้องการสร้างให้ทุกคนรวย เพื่อประเทศจะสามารถเก็บเงินภาษีได้มากขึ้น
แม้พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคใหม่ แต่พรรคไทยสร้างไทย ไม่ใช่พรรคแตกแบงก์พันของใครแต่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนทุกคน เป็นเจ้าของมีส่วนร่วมและยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตยไม่เป็นที่เหยียบยืนของเผด็จการ จะเป็นพรรคที่ยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พรรคไทยสร้างไทยเลือกที่จะทำให้คนตัวเล็กแข็งแรงมากขึ้น มีรายได้มากขึ้น เข้มแข็งมากขึ้น จะมุ่งสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้ประชาชน แสวงหาสันติภาพให้เกิดขึ้นจริง เพราะหมดเวลาแล้วที่จะเกิดปัญหาทางการเมือง วนเวียนกลับไปสู่การรัฐประหารอีกครั้ง ดังนั้นเลือกแบบเดิมชีวิตก็ไม่เปลี่ยน ขอโอกาสพรรคไทยสร้างไทยเข้าไปทำงาน ฝากพี่น้องขยายการรับรู้ โดยเฉพาะอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า จะมาสร้างพลังให้กับประชาชน เริ่มต้นจากการพักชำระหนี้ 3 ปีให้พี่น้องลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ จากนั้นก็เติมทุนให้ประชาชนผ่าน 4 กองทุน
1. กองทุน SMEs เพื่อให้ SMEs โดยเฉพาะ Micro SMEs ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำได้
2. กองทุนวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เกษตรกรและลูกหลานได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนมาต่อยอดกิจการสร้างรายได้จากที่ดินทำกิน จากภูมิปัญญาของตัวเอง เพื่อให้ลูกหลานกลับมาทำงานในบ้านเกิด
3. กองทุนคนตัวเล็ก จะเป็นแหล่งสร้างทุนให้คนตัวเล็ก แทนการกู้หนี้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อเดือน เหลือเพียงร้อยละ 4-5 ต่อปี สามารถกู้ได้ตลอดชีวิต เพียงต้องรักษาวินัยการผ่อนชำระ
4. กองทุนสตาร์ทอัพ เพื่อให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสตั้งตัวเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยความรู้ความสามารถที่ตนเองเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา เปิดโอกาสให้เกษตรกรและลูกหลานเกษตรกรได้มีทุนทำธุรกิจบนพื้นที่และภูมิปัญญาของตัวเอง
ขณะเดียวกัน พรรคไทยสร้างไทย ตั้งใจดูแลผู้สูงอายุ ด้วยนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ มุ่งดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้แข็งแรง มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยต่อไป รวมถึงจะเป็นการลดภาระ ลดความกังวลของลูกหลาน ทำให้มีเงินตั้งตัวได้ไวขึ้น โดยไม่ต้องแบกค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุในครอบครัว
ด้านนายโภคิน ให้ความเห็นว่า พรรคการเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เป็นพรรคของคนใดคนหนึ่ง จึงเชิญชวนทุกคน มาร่วมกันสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดกับพรรคไทยสร้างไทย เพื่อส่งมอบให้ลูกหลาน ที่ผ่านมา แนวคิด "อำนาจนิยม" ที่เอื้อพวกพ้อง ทำให้ประเทศถดถอย โดยใช้กลไก "รัฐราชการรวมศูนย์" จนสร้างความยากลำบากแก่ "คนตัวเล็ก" ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ทำให้เป็นบ่อเกิดของการทุจริตคอร์รัปชัน
และการเพิ่มขึ้นของกฎระเบียบจาก "รัฐราชการ" เป็นตัวฉุดรั้งคนไทยให้อยู่ภายใต้พันธนาการ และที่สำคัญนายโภคิน ต้องการสร้างพลัง empower ให้ประชาชนคนตัวเล็กลืมตาอ้าปากได้ เพื่อต่อลมหายใจให้ประชาชนไม่พึ่งพาการกู้หนี้นอกระบบ ส่วนการปลดปล่อย liberate คนตัวเล็ก ต้องทำการกิโยตินกฎหมายที่ไม่มีประโยชน์ที่ฉุดรั้งการทำมาหากินประชาชน ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้นำเสนอไปทั้งหมดแล้ว