ลักปิดลักเปิด ย้อนแย้งสับสน รัฐบาลอยากเปิดประเทศเสรี เปิดให้ท่องเที่ยวใจจะขาด จัดเต็มของขวัญปีใหม่ ทั้งคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ช้อปดีมีคืน สารพัดโครงการมุ่งหวังกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังไส้แห้ง บักโกรก

แต่โควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” ดันเข้ามาปั่นป่วนจนรัฐบาลขวัญผวาหูตาตื่น คนติดเชื้อเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้น จนต้องปรับเปลี่ยนและชะลอมาตรการหลายอย่างแบบเร่งด่วน โดยเฉพาะการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนการจัดงานรื่นเริงภายในประเทศต้องเคร่งครัด เข้มงวดกว่าเดิม

งานกร่อยตามเคย ผู้ประกอบการร้านค้าหน้าเหี่ยว ลุ้นเสียวไปตามๆกัน

ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน ต้องดูไปตามหน้างานสถานการณ์ นั่นเพราะรัฐบาลไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจให้ประชาชน ยังคงไว้ซึ่งความมั่วซั่ว วิ่งไล่ตามปัญหา บริหารประเทศท่ามกลางเสียงด่า ไม่ถูกต่อว่าก็ไม่ทำอะไร

คุยโม้โอ้อวดวัคซีนเต็มประเทศ ก็เร่งบูสต์เข็ม 3 เข็ม 4 สร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความเชื่อมั่น ยารักษามีเยอะก็เตรียมไว้ให้พร้อม ประกาศรับประกันไปเลยเป็นแล้วต้องหาย เป็นแล้วไม่ตาย ไม่เดียวดายแน่นอน

แค่นี้ก็สร้างความเชื่อมั่นได้เยอะแล้ว เพราะความร้ายกาจของ “เดลตา” น่ากลัวกว่า “โอมิครอน” เยอะ

แต่กลับเป็นรัฐบาลที่ไม่มั่นใจ ตื่นตระหนกกว่าใครเสียเอง แล้วยังจะไปคาดหวังเรื่องการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ ย้อนแย้งสิ้นดี บริหารประเทศแบบนี้ความนิยมถึงลดลงฮวบฮาบ

กระแสตกต่ำ การเมืองก็เสื่อมทรุดจากความขัดแย้งภายใน เปรียบเทียบกันชั่วโมงนี้ฝ่ายค้านดูคึกคักมีน้ำมีนวลกว่าฝ่ายรัฐบาลเยอะเลย

วาดฝันมโนอนาคตจากเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่มีใครกล้าเดิมพัน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะได้กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ

...

เพราะไม่รู้จะคืนความสุขที่แท้จริงให้ประชาชนได้เมื่อไหร่

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ถึงได้บอกถ้านายกฯลาออกจะเป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีที่สุดของคนไทย คนในพรรคพลังประชารัฐ พรรคหลักรัฐบาลไม่น้อยก็คงแอบคิดเหมือนกัน

นับประสาอะไรกับคนภายนอก ไม่น่าแปลกใจภารกิจตามล่าหาตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคพลังประชารัฐถึงได้ยากเย็นแสนเข็ญ เพราะไม่มีใครอยากเอาชื่อมาทิ้ง

พรรคก้าวไกลยังน่าสนใจกว่า น่าลงทุนกว่า ชั่วโมงนี้กระแสคนรุ่นใหม่ดีกว่ากระแสลุง 3 ป. ค่ายสีส้มประกาศแล้วจะเปิดตัวผู้สมัครท้าชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ช่วงกลางเดือนมกราคมปีหน้า

แม้แต่พรรคใหม่อย่างไทยสร้างไทยยังแว่วว่าได้ตัวผู้สมัครแล้ว รอเจรจาขั้นตอนสุดท้ายกับนางสาว “ป.” หน้าตาสวยดีกรีหรู

ถ้าพลังประชารัฐหาตัวผู้สมัครไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหน

หนีไม่พ้นต้องดึงเช็ง ประวิงเวลาไปเรื่อยๆ กลางปีหน้ายัง ไม่รู้จะได้เลือกมั้ยผู้ว่าฯ กทม. สอดรับกับข่าวแปลกๆ จะปัดฝุ่นให้เลือกตั้ง ส.ข. ทั้งๆที่เรียกร้องกันปากเปียกปากแฉะก่อนหน้านี้

กลับไปกลับมา คนนินทาแค่เกมเตะถ่วงมากกว่า

เหนืออื่นใดไม่ต้องมองไกล ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จะมาถึงวันที่ 16 ม.ค.2565 ล่าสุดพลังประชารัฐตัดสินใจส่งผู้สมัครเขตเดียวที่สงขลา แต่ขอบายที่ชุมพร

พรรคพลังประชารัฐมีมารยาททางการเมืองขึ้นมาหน้าตาเฉย

หมากเกมนี้ต้องจับตาเกม “ฮั้วข้ามค่าย” ที่มี “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐบัญชาการอยู่เบื้องหลัง

การให้ “เดอะเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็น ผอ.เลือกตั้งซ่อมที่สงขลา แทนที่จะเป็น “ผู้กองนัส” ก็เท่ากับเกมพลิก อาจมีรายการปล่อยผ่าน แกล้งแพ้ เอา “เดอะเฮ้ง” ไปฆ่าทางการเมือง

สืบค้นความสัมพันธ์ระหว่าง “ผู้กองนัส” กับ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคป้ายแดง แห่งประชาธิปัตย์ ที่ส่งภรรยาลงบู๊ ค่อนข้างลึกซึ้ง ตามสไตล์ใจถึงพึ่งได้เหมือนกัน

และชั่วโมงนี้ “นายกชาย” ต้องการแผ่พังพานบารมีปกคลุมภาคใต้

การจะทำเช่นนั้นได้ก้าวแรกคือต้องชนะเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้สถานเดียว

เกม “วิน-วิน” จ้องแทงกันเอง อาจนำมาซึ่งความพ่ายแพ้ของพรรคพลังประชารัฐ

ทำให้กระแส “ลุงตู่” ยิ่งต่ำเตี้ยเรี่ยราดลงไปอีก.

ทีมข่าวการเมือง