คดี 'วิรัช รัตนเศรษฐ" ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถามคำให้การจำเลยยันปฏิเสธทุจริตสร้างสนามฟุตซอล ศาลนัดตรวจหลักฐาน 17 พ.ค.ปีหน้า พร้อมนัดไต่สวนโจทก์นัดแรก 14 มิ.ย. 65
ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 64 องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบังลังก์นัดพิจารณาคดีครั้งแรก หรือนัดสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อม.17/2564 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตประธานวิปรัฐบาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กับพวก รวม 87 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10, 11, 12, 13, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 162, 264, 265, 268, 83, 86, 91 กรณีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา โดยศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 ทำให้นายวิรัช นางทัศนียา รัตนเศรษฐ และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ซึ่งมีตำแหน่งเป็น ส.ส. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล
ต่อมาผู้พิพากษาองค์คณะฯ ได้อ่านและอธิบายคำฟ้องโจทก์ให้จำเลยฟัง และสอบคำให้การจำเลย ซึ่งจำเลยทั้ง 87 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยนัดนี้จำเลยที่ 74 ยื่นคำร้องขอโอนคดีที่อัยการจังหวัดนครราชสีมา ยื่นฟ้องจำเลยที่ 74 ต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา มาพิจารณาคดีในศาลนี้ เนื่องจากจำเลยระบุว่าคดีที่อัยการยื่นฟ้องเป็นข้อเท็จจริงเดียวกับศาลนี้ แต่ในคำร้องของจำเลยไม่ได้ปรากฏคำฟ้องของอัยการ จึงต้องสอบถามโจทก์ก่อน ศาลจึงยังไม่สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นคดีอาญาเดียวกันหรือไม่ ให้นัดฟังคำสั่งขอโอนคดีในวันที่ 10 ก.พ. 65 เวลา 13.30 น.
...
ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 17 พ.ค. 65 เวลา 09.30 น. นัดไต่สวนพยานโจทก์นัดแรกวันที่ 14 มิ.ย. 65 เวลา 09.30 น. ให้คู่ความยื่นบัญชีพยานก่อนวันนัดตรวจพยานไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้คู่ความตรวจสอบบัญชีพยาน หากมีข้อโต้แย้งให้ยื่นคำร้องไม่น้อยกว่า 7 วัน หากมีพยานภายนอกที่จะนำเข้าพิจารณา ให้ยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลเรียกพยานมาโดยเร็ว เพื่อให้ทันการไต่สวน ทั้งนี้เหตุที่นัดนานเนื่องจากทนายความจำเลยทั้งหมดไม่มีวันว่างตรงกัน
สำหรับคดีนี้ทาง ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการสอบสวน พร้อมชี้มูลความผิดนายวิรัช สมัยเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันกับพวก รวม 87 คน ทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณปี 2555 ที่นำไปจัดสร้างสนามฟุตซอลให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา 18 จังหวัด มูลค่า 4,459 ล้านบาท รวมทั้งโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 จ.นครราชสีมาด้วย แต่ปรากฏว่าการสร้างสนามฟุตซอลใน จ.นครราชสีมา กลับสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถใช้งานได้.