“อนุทิน” ยืนยัน ไทยไม่ลดมาตรฐานการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตรวจจับโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ย้ำ วัคซีนยังช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต ขอทุกคนระมัดระวังขั้นสูงสุด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์วันนี้ (16 ธันวาคม 2564) ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีระบบเฝ้าระวัง คัดกรอง ตรวจจับโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หรือ โอไมครอน (Omicron) อย่างรัดกุมในผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทุกราย และจะไม่ลดมาตรฐานการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศตามช่องทางที่ถูกกฎหมาย ทุกคนต้องมีผลการตรวจหาเชื้อจากประเทศต้นทางด้วยวิธี RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง และตรวจซ้ำเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยเพื่อความปลอดภัย ขณะนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พบยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และแนวโน้มของอาการป่วยไม่น่าจะรุนแรงเท่าสายพันธุ์ที่เคยพบมา
ทั้งนี้ ได้มีการหารือกับผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ผู้ผลิตวัคซีน และแพทย์มาโดยตลอดเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ว่าสามารถป้องกันสายพันธุ์นี้ได้หรือไม่ โดยมีความเห็นตรงกันว่าวัคซีนที่ประเทศไทยนำมาใช้ทุกแพลตฟอร์ม ทุกยี่ห้อ ยังช่วยลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ แม้จะเป็นวัคซีนเชื้อตาย แต่เมื่อดูจากผลสัมฤทธิ์ของวัคซีนในประเทศจีน ซึ่งมีประชากร 1,500 ล้านคน ก็ยังสามารถป้องกันได้
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 แก่ประชาชน โดยห่างจากเข็ม 2 เป็นเวลา 3 เดือน (จากเดิม 6 เดือน) เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน
“ขอยืนยันว่ามีวัคซีนทุกแพลตฟอร์มเพียงพอสำหรับประชาชนทุกคน แต่นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว ความร่วมมือ ความเข้าใจ การระมัดระวังตัวขั้นสูงสุดตามหลักการ Universal Prevention คือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ทุกคนปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด-19”
...