โฆษกรัฐบาลยืนยัน “พล.อ.ประยุทธ์” เน้นย้ำดูแลชาวนาและเกษตรกร เดินหน้าจ่ายเงินช่วยเหลือโครงการประกันรายได้ เตรียมนำเข้า ครม.อังคารหน้า ขออนุมัติอีก 155,000 ล้าน ให้ ธ.ก.ส. เร่งโอน
วันที่ 25 พ.ย. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยและเข้าใจความเดือดร้อนและทุกข์ของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ยังรอรับเงินประกันรายได้ ตามนโยบายประกันรายได้ของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้รัฐบาลจัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้เพิ่มเติมอีก 155,000 ล้านบาท โดยจะนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติภายในวันอังคารหน้า (30 พ.ย. 2564) จากนั้น ก็ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งเบิกจ่ายโอนถึงบัญชีพี่น้องเกษตรกรโดยตรงต่อไป ซึ่งพี่น้องเกษตรกรชาวนาทราบแล้ว สบายใจ ฝากขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมาด้วย
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ วานนี้ (24 พ.ย. 2564) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมเห็นชอบปรับกรอบอัตรายอดคงค้างรวมทั้งหมดของภาระที่รัฐต้องชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 จากไม่เกินร้อยละ 30 เป็นไม่เกินร้อยละ 35 เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับปีงบประมาณ 2565 เพื่อเปิดวงเงินให้สำหรับโครงการประกันรายได้พืชผล ส่งผลให้มีวงเงินตามมาตรา 28 เพิ่มอีก 155,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับวงเงินคงเหลือ (ณ วันที่ 19 พ.ย. 2564) จำนวน 5,360 ล้านบาท เป็น 160,360 ล้านบาท ทำให้มีวงเงินเพียงพอสำหรับการจ่ายชดเชยประกันรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและยางพารา ในรอบที่ 2 ได้
หลังจากนี้จะได้มีการออกประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดอัตราชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 ต่อไป ซึ่งในการประชุม ครม. สัปดาห์หน้า จะสามารถพิจารณาอนุมัติโครงการประกันรายได้ข้าวในส่วนที่เหลือ และโครงการประกันรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เพื่อจ่ายเงินประกันรายได้ให้กับเกษตรกรได้ภายในเดือน ธ.ค. 2564
...
นายธนกร ยืนยันด้วยว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว พร้อมมาตรการคู่ขนาน เพราะเป็นโครงการสำคัญ จำเป็นที่ต้องดำเนินการ เนื่องจากเป็นนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อสภา จึงสั่งการกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และกระทรวงพาณิชย์ เร่งจ่ายเงินประกันรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในส่วนที่ยังค้างจ่าย ด้วยวิธีการที่เหมาะสมตามกฎหมาย ภายใต้การดูแลการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่ต้องดำเนินการโดยรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดด้วย.