นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีผู้ได้รับรางวัลพระราชทาน เชื่อ ภาคธุรกิจ-เอกชน พร้อมร่วมมือภาครัฐขับเคลื่อน ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันประเทศ ยัน รัฐบาลมุ่งมั่นขับเคลื่อนให้ไทยมีรายได้สูงขึ้น

วันนี้ (24 พ.ย. 2564) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลพระราชทาน SMEs Excellence Awards 2021 และรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Award 2021  โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรางวัลแก่องค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้านการบริหารจัดการสาขาต่างๆ 9 สาขารางวัล และผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความเป็นเลิศในเรื่องการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมความสำคัญของการบริหารจัดการในธุรกิจภาคเอกชน และพัฒนาการบริหารจัดการเพื่อสร้างความเข้มแข็งในภาคธุรกิจซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรธุรกิจชั้นนำขนาดใหญ่ และองค์กร SMEs ร่วมภายในงานด้วย

...


 
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลพระราชทาน ว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งและเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาการบริหารจัดการขององค์กร สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ธุรกิจไทยและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่น ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการสร้างศักยภาพของภาคธุรกิจไทยภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตทั้งด้านเศรษฐกิจ การเข้าสู่ยุคดิจิทัลการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตลอดจนวิกฤติจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมเน้นว่า ผู้นำธุรกิจในโลกยุคใหม่ต้องรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง คาดการณ์ไปข้างหน้า เป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงภายใต้ศตวรรษที่ 21 สามารถเตรียมองค์กรให้พร้อมสำหรับอนาคต ด้วยการพัฒนาและบริหารทรัพยากรทั้งคน เงิน เทคโนโลยี สร้างนวัตกรรม สินค้าและบริการที่เป็นเลิศ ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค และมีความยั่งยืน โดยไม่สร้างปัญหาและผลกระทบในทางลบให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม
 
พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคและสากล โดยกระตุ้นการลงทุนในโครงการที่มีประสิทธิภาพที่นักลงทุนได้ยื่นขออนุมัติส่งเสริมการลงทุนไว้แล้วให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว รวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อมั่นในภาคธุรกิจ เอกชน องค์กรต่างๆ ว่า พร้อมและตั้งใจที่จะร่วมมือกับภาครัฐในการขับเคลื่อน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ภายใต้การขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ใช้ศักยภาพจากความหลายหลายทางชีวภาพ พัฒนาเกษตรแบบครบวงจร ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าสูงขึ้นด้วยการการวิจัยและพัฒนา ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุน SMEs, Micro SMEs และ Start up ให้เข้มแข็งและเข้าถึงสิทธิประโยขน์ที่รัฐให้การสนับสนุน โดยผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามนโยบายของรัฐบาลด้วย

อย่างไรก็ตาม ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า รัฐบาลมุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายที่กำหนด  เพื่อทำให้ประเทศไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น ดูแลประชาชนทุกกลุ่ม สร้างความเท่าเทียมในโอกาสในการเข้าถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานและโอกาส โดยเฉพาะความเท่าเทียมทางกฎหมาย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง.