ผ่านไปอย่างชื่นมื่นกับอีเวนต์ ครม.สัญจรนัดแรก 15-16 พ.ย. (กระบี่-ตรัง) ภายหลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นำทีม ครม. ตระเวนลงพื้นที่กันคึกคัก แบ่งคณะแยกกันไปดู 6 จังหวัดโซนอันดามัน ระนอง, ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ตรัง และสตูล
เป้าประสงค์หลักคือ ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับบรรดานักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ
หวังจะใช้ จ.กระบี่ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รองมาจาก จ.ภูเก็ต ที่เปิดโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ไปแล้วก่อนหน้านี้
ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มข้น ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงราวกับไข่ในหิน
แต่ก็ยังมีกลุ่มต้านออกมาแสดงพลังเล็กๆด้วยการทำลายป้ายต้อนรับคณะ “บิ๊กตู่”
ทั้งนี้มีข้อเสนอจากทาง สภาอุตสาหกรรมภาคใต้ รวมถึงภาคเอกชนในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 6 จังหวัด นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. มีทั้งโครงการใหม่และเร่งรัดโครงการเดิม
โดยทางสภาอุตสาหกรรมภาคใต้เน้นไปที่โครงการหลักที่ต้องการจะผลักดัน คือ
1.เรื่องเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (bio-circular-green economy : BCG model) รวมไปถึงการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมจะเป็นระบบมากขึ้น การผลักดันโครงการเขตอุตสาหกรรมพิเศษกลุ่มอันดามัน ให้สอดคล้องกับนโยบาย BCG อย่างครบวงจร
2.ท่าเรือขนส่งสินค้าฝั่งอันดามัน เพื่อส่งออกสินค้าเกษตรไปยังกลุ่มเอเชียกลางและยุโรป
3.สนับสนุนกิจการที่ต้องการลงทุน ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร และผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมเกษตร
รวมไปถึงการผลิตไฟฟ้าจาก biogas biomass ที่ได้จากวัสดุเหลือใช้ในอุตสาหกรรมเกษตร
...
4.ส่งเสริมการดำเนินงานเกษตรอัจฉริยะ เกษตรแม่นยำ เกษตรแปลงใหญ่ การเกษตรที่มีมูลค่าสูง, การปลูกปาล์มเพื่อความยั่งยืน โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร
5.แก้ไขระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินงาน เพื่อยกระดับมูลค่าสินค้าเกษตร
และ 6.สนับสนุนงบประมาณจัดการเรียนรู้พัฒนาบุคลากร ทักษะการปฏิบัติงาน
ขณะที่ข้อเสนอของกลุ่ม 6 จังหวัดอันดามัน ทางคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (จ.กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล)
เสนอรวม 8 ด้าน รวม 83 โครงการ อาทิ
จ.ภูเก็ตต้องการให้รัฐบาลผลักดันการเสนอตัว เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “ซีเกมส์” ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ และมีแผนเสนอตัวเป็น เจ้าภาพการจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Speciatized Expo) ในปี 2571
ส่วนจังหวัดที่เหลือ ข้อเสนอจะเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบก ทางน้ำ ระบบราง และอากาศ รวมทั้งการพัฒนาโครงข่ายด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้แก้ไขกฎหมายให้เหมาะสม เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก หรือโฮมสเตย์ ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายได้
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ถูกตีความได้ว่า เป็นการปูพรมตุนคะแนน ของฝ่ายรัฐบาล
เตรียมพร้อมรับศึกเลือกตั้งใหญ่ได้ทุกเมื่อ.
“เพลิงสุริยะ”