รมว.คมนาคม ให้การต้อนรับ ปธ.วุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิส-คณะ หารือกระชับความสัมพันธ์-ด้านการลงทุน-การพัฒนาระบบขนส่งคมนาคม ระหว่าง 2 ประเทศ

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.64 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับนายอเล็กซ์ คูเพรชท์ (H.E. Mr. Alex Kuprecht) ประธานวุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิส พร้อมด้วย นายเบเนดิกท์ เวิอร์ท (Mr. Benedikt WÜrth) วุฒิสมาชิกและว่าที่ประธานคณะกรรมการรัฐสภาสมาคมการค้าเสรียุโรป (European Free TradeAssociation: EFTA) และคณะ ร่วมด้วย นางเฮเลน บุดลีเกอร์ อาร์ทีเอดา (H.E. Mrs. Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของวุฒิสภา ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย.64 โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมการขนส่งทางราง และการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าร่วม 

โดย นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงโอกาสการกระชับความร่วมมือ และความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ระหว่างประเทศไทยและสมาพันธรัฐสวิส ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันครบรอบ 90 ปี ในปีนี้ รวมทั้งหารือถึงบทบาทคมนาคมขนส่งของไทย ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน ผ่านความเชื่อมโยงภายในประเทศและระหว่างภูมิภาค เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน โดยมีโครงการสำคัญ ดังนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดพื้นที่ EEC ของประเทศไทย โดยการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก รวมทั้งการขยายเส้นทางทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 เพื่อเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 การบูรณาการระหว่างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางรถไฟทั่วประเทศ (Motorway and Railway Master Plan : MR-MAP) โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (Landbridge ชุมพร-ระนอง) แผนพัฒนาระบบรางของประเทศไทย ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าในกรุงเทพและปริมณฑล รวมไปถึงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเมืองใหญ่

...

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงโอกาสด้านการพัฒนาความสัมพันธ์ ด้านการลงทุนและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการพัฒนาระบบคมนาคมระหว่างสองประเทศ ทั้งอุตสาหกรรมระบบราง การพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืน แนวทางการสร้างอุโมงค์เพื่อลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างเมือง  การเชิญชวนนักลงทุนชาวสวิสเซอร์แลนด์มาร่วมลงทุนในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ