“พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมคณะ ตรวจโควิดหลังกลับถึงไทย ผลเป็นลบทุกคน ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมมือเปิดประเทศ โว ต่างชาติชื่นชม ขอ อย่าขัดแย้งอะไรกันมาก
เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 3 พ.ย. 2564 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางกลับถึงประเทศไทยหลังเสร็จสิ้นภารกิจเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC : COP) สมัยที่ 26 หรือ COP26 ที่สหราชอาณาจักร โดยเลื่อนเดินทางถึงเร็วขึ้นจากเดิมเวลา 18.40 น. และมีคณะแพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลราชวิถี มาทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร่งด่วนด้วย Antigen Test Kit (ATK) พร้อมฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายหลังคณะนายกรัฐมนตรีเดินทางออกจาก บน.6
ทั้งนี้ ภายหลังการตรวจนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ลงมาช้าเพราะต้องตรวจ ATK ผลออกมาเป็นลบ และก็ตรวจ RT-PCR ซ้ำ ตอนไปต่างประเทศก็โดนตรวจ รวมถึงผู้นำ 120 กว่าประเทศ และทีมคณะทำงาน คนเกือบ 20,000 คน เขาตรวจเข้ม ทั้ง ATK และ RT-PCR กลับมาถึงไทยก็ตรวจตามมาตรการ ถ้าหากอยากให้ประเทศไทยเปิดหน้ากากคุยกันตามปกติก็ต้องร่วมมือกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตอนอยู่ต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1-3 พ.ย. 2564 ก็มีความเป็นห่วงประเทศไทยซึ่งประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. และได้ติดตามการรายงานอย่างต่อเนื่องทางโทรศัพท์ ทางไลน์ต่างๆ เหล่านี้ ทุกส่วนก็รายงานว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง อันนี้เป็นสิ่งที่น่ายินดี ต้องขอบคุณประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การที่เราจะได้อะไร จะทำอะไร ก็ต้องร่วมมือกัน ทุกภาคส่วนก็จะดี
ทั้งนี้ ทราบว่าสถิติการบินเข้าของนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากกว่าเดิม 2-3 เท่า ซึ่งการเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนตัวได้เล่าให้ผู้นำแต่ละประเทศฟังถึงการท่องเที่ยวในไทย โดยบอกว่าประเทศไทยพร้อมเปิดการท่องเที่ยวแล้ว เขาก็ชื่นชมและส่วนใหญ่ก็รู้จักประเทศไทยกันอยู่แล้ว เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเขาอยู่แล้ว เขาก็ยินดีที่เราได้เปิดประเทศ และยังได้บอกไปว่าถ้าเป็นไปได้ขอความร่วมมือระหว่างกันในเรื่องเปิดการเดินทางที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเราได้กำหนดเป้าหมายแล้วจะมีการประเมินผลทุก 15 วัน วันนี้ก็ทราบว่ายังไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ต้องขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วน ภาคธุรกิจ เอกชน เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานหนัก
...
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบรายงานสถิติการติดเชื้อโควิด-19 ลดลง วันนี้อยู่ที่กว่า 7,000 ราย หลายอย่างก็ดีขึ้น ทั้งหมดอยู่ที่เราจะให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อย่าขัดแย้งอะไรกันมากนัก ไม่เช่นนั้นก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ถ้าสถานการณ์โควิดดีขึ้น การท่องเที่ยวดีขึ้น ห่วงโซ่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะดีขึ้น ธุรกิจต่างๆ ประชาชนก็จะมีรายได้ เราต้องช่วยกันทำ ถ้าอยากได้อะไรต้องช่วยกัน รัฐบาลมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและจะดำเนินการให้ดีที่สุด.