เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พี่ใหญ่สาม ป. ประกาศเลือกข้าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คู่ขัดแย้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สนับสนุนให้เป็น เลขาธิการพรรค พปชร. ต่อไป เส้นทางนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ก็ตกอยู่ในความเสี่ยงทันที พล.อ.ประวิตรยังทำลายแผนการน้องรัก ต่อสายถึงกรรมการบริหารพรรคทุกคนไม่ให้ลาออกเพื่อโละกรรมการชุดเดิม ให้ทำแบบสอบถามในที่ประชุมพรรคตอกย้ำอีกดอกว่า สมาชิก พปชร. ยังสนับสนุน พล.อ.ประวิตร เป็น หัวหน้าพรรค สนับสนุน ร.อ.ธรรมนัส เป็น เลขาธิการพรรค ไม่ใช่คนนอก

พล.อ.ประยุทธ์ จึงพาหัวใจอันบอบช้ำบินไปร่วมประชุมโลกร้อนที่ กลาสโกว์ สกอตแลนด์ เส้นทางนายกรัฐมนตรีข้างหน้า ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอีกต่อไปแล้ว แม้แต่โอกาสที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกสมัย ก็ยังริบหรี่ไม่น้อย

ความเสี่ยงแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเผชิญก็คือ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่จะเริ่มในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีกฎหมายสำคัญของรัฐบาลเข้าสภาสองฉบับ คือ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 เพื่อให้คงอำนาจ ศบค. ในการใช้อำนาจฉุกเฉินต่อไป และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% เป็น 70% ซึ่งเป็นกฎหมายการเงิน ถ้ารัฐบาลแพ้เสียงในสภา พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องพ้นจากนายกฯสถานเดียว เสียงสนับสนุนเหล่านี้อยู่ในมือของพล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด

ความเสี่ยงต่อไปก็คือ พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น แคนดิเดตนายกฯของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการแย่งชิงอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ แม้แต่อำนาจของ พล.อ.ประวิตร ในวันนี้ก็ถือว่า “เริ่มสั่นคลอน” แล้ว เมื่อ พี่น้อง 3 ป. ที่เคยมีอำนาจเบ็ดเสร็จ กลับไม่สามารถปลด ร.อ.ธรรมนัส ออกจากเลขาธิการพรรคได้ บารมีของ ร.อ.ธรรมนัส ในพรรคจึงเพิ่มขึ้นไม่น้อย โอกาสที่ พล.อ.ประวิตรจะสั่งซ้ายหันขวาหันสมาชิกพรรคในอนาคต คงไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว แค่เดินให้ตรงก็ยังยากเลย

...

มีข่าวจากพรรคพลังประชารัฐว่า พล.อ.ประวิตร จะปรับโครงสร้างพรรคเพื่อ ลดอำนาจเลขาธิการพรรค โดย ตั้งรองหัวหน้าพรรคเพิ่มเป็น 5 คน และให้ ส.ส. เลือก หัวหน้าภาคขึ้นมา 5 ภาค เพื่อดูแล ส.ส. แต่ละภาค เมื่อมีปัญหาในภาค ให้หัวหน้าภาครายงานรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาค เพื่อรายงานตรงต่อ พล.อ.ประวิตร คนเดียว ไม่ต้องผ่านเลขาธิการพรรคอีกต่อไป โครงสร้างที่พิกลพิการแบบนี้ ยิ่งสร้างความแตกแยกสั่นคลอนในพรรคพลังประชารัฐมากขึ้น

ความจริงในพรรคพลังประชารัฐเวลานี้ ไม่มีบุคคลเหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในการเลือกตั้งสมัยหน้าเลย นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว แต่ก็เป็นคนนอก ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค และยังขัดแย้งกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค จึงเกิดคำถามว่า พรรคพลังประชารัฐ จะยังส่งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น แคนดิเดตนายกฯอีกไหม ถ้าไม่ส่งก็เท่ากับ ดับฝันนายกฯ 2 สมัย 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเลย จึงไม่แปลกที่มีข่าวว่า มีกลุ่มทุนจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งพรรคเอง แต่ผมเชื่อว่าคงตั้งไม่สำเร็จ

สิ่งที่ ประชาชนคนไทยต้องคิด ก็คือ ตลอด 8 ปี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พี่น้อง 3 ป. ครองอำนาจมาจนถึงวันนี้ คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้นหรือแย่ลง รายได้ประชาชนดีขึ้นหรือแย่ลง สองปีที่เผชิญวิกฤติโควิดรัฐบาลดูแลประชาชนดีหรือไม่ ทำไมวัคซีนไม่มายาไม่มา

วันนี้ผมเริ่มเห็น “คนหน้าใหม่” และ “คนรุ่นใหม่” เปิดตัวเข้ามาในเวทีการเมืองมากขึ้น ทำให้รู้สึกมีความหวัง หวังว่า คนรุ่นใหม่ กับ ความคิดใหม่ที่ทันโลก จะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิม มีคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น คอร์รัปชันน้อยลง และ เอากระบวนการยุติธรรมคืนให้สังคม และ ถ้ามีการเลือกตั้งปีหน้า ผมหวังว่าจะได้เห็น “คนหน้าใหม่” และ “คนรุ่นใหม่” เข้ามาเยอะๆ บ้านเมืองจะได้เปลี่ยนแปลงเสียที เบื่อไดโนเสาร์แล้ว.

“ลม เปลี่ยนทิศ”