สรุปผ่อนคลายมาตรการกิจการและกิจกรรมพื้นที่สีแดงเข้ม หากหย่อนยานถูกสั่งปิดได้ เคอร์ฟิวต่ออย่างน้อย 15 วัน แต่ปรับลดเวลาเหลือ 4 ชั่วโมง ขณะสถานบันเทิง ผับ บาร์ ทั่วประเทศยังเปิดไม่ได้
วันที่ 14 ต.ค. 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงถึงมาตรการต่างๆ ภายหลัง ศบค. ปรับเปลี่ยนสีพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เหลือ 23 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) เหลือ 30 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เพิ่มขึ้นเป็น 24 จังหวัด
สำหรับมาตรการในพื้นที่สีแดงเข้ม ก็มีการผ่อนคลายมากขึ้น มีผลตั้งแต่ 16 ต.ค. เป็นต้นไปเช่นกัน ดังนี้
- ห้ามออกนอกเคหสถาน ลดเวลาเหลือ 23.00-03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน (เดิมเวลา 22.00-04.00 น.)
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด เปิดได้ถึง 22.00 น. จำหน่ายได้ทุกประเภทสินค้า เปิดบริการ เครื่องเล่น โดยต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร
...
- กิจการอื่นๆ ที่เปิดทำการโดยกำหนดเวลา อาทิ ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์, ร้านอาหาร, โรงละคร โรงมหรสพ (ลิเก งิ้ว ลำตัด หรือการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ), สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ, ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดดำเนินการได้ปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. และยังเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
- สถานดูแลผู้สูงอายุ ให้เปิดดำเนินการแบบไป-กลับได้ โดยต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครทั้งนี้ บุคลากรต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ และสุ่มตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ ส่วนผู้ใช้บริการก็ต้องได้รับวัคซีนครบเช่นกัน
- การขนส่งสาธารณะทุกประเภท จากเดิม 75% ปรับเพิ่มความจุตามความสามารถของยานพาหนะ โดยกระทรวงคมนาคมกำกับ
- ศูนย์การแสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม เคร่งครัดมาตรการ COVID Free Setting เปิดการจัดประชุมและจัดงานตามประเพณีนิยมได้ โดยจำกัดไม่เกิน 500 คน, เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร, จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด, สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา, กำหนดเวลาประชุมไม่เกินช่วงละ 2 ชั่วโมง, ให้มีเวลาพักและเปิดระบายอากาศ, เปิดดำเนินการได้ไม่เกิน 22.00 น. และให้ขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร กรณีเกิน 50 คน
ในส่วนของสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังไม่เปิดดำเนินการในทุกพื้นที่ แต่ให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมและบุคลากรต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 ทุกคน โดยกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งรัดกำหนดมาตรการสำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายใน 31 ต.ค.นี้ สำหรับรายละเอียดที่ครบถ้วนจะถูกประกาศลงในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาอีกครั้งก่อนมีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม โฆษก ศบค. ระบุในช่วงท้ายว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นห่วงคือ เมื่อปรับมาตรการแล้ว สำคัญที่สุดคือความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ ภาครัฐ 3 ส่วนนี้ ถ้าได้กำกับติดตามอย่างใกล้ชิดเราจะมีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับดำเนินกิจการกิจกรรม และเหมาะสมจะอยู่กับโควิด-19
“วันนี้โควิดก็ยังเป็นหมื่น แต่เรามีวิธีการที่จะอยู่กับเขาได้ เพราะฉะนั้นท่านเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปติดเชื้อ อยู่กับเขาก็ไม่ใช่ว่าเราจะติดเชื้อ กิจการกิจกรรมของเราก็ต้องทำให้คนที่จะเข้ามาไม่ติดเชื้อ เราก็จะดำเนินการต่อไปได้ ถ้าที่ใด แห่งใด ดำเนินการแล้วผลไม่เป็นผลดี ก็ถูกสั่งปิดได้เหมือนเดิม นี่คือสิ่งที่ต้องขอให้รับทราบถึงความเข้าอกเข้าใจตรงนี้กันด้วย เพราะว่าเมื่อได้สิทธิ์นั้นมาความรับผิดชอบต้องมาพร้อมกันด้วย”