เหตุเกิดไล่เลี่ยๆกัน ผู้นำระดับโลกเปลี่ยนแปลงพร้อมกัน 2 ชาติใหญ่ ไล่ตั้งแต่นายฟูมิโอะ คิชิดะ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนใหม่ของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ภายหลังนายโยชิฮิเดะ ซูงะ ลาออกเพราะรับมือวิกฤติโควิดได้ไม่เป็นที่พอใจของประชาชน
ไม่ถึงปีญี่ปุ่นต้องเปลี่ยนนายกฯคนใหม่ 2-3 คน ล่าสุดก็เป็นรายของผู้นำหนุ่มวัยแค่ 30 ต้นๆอย่างนายเซบาสเตียน คูรซ์ นายกรัฐมนตรีออสเตรีย ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังโดนแรงกดดันหนักจากประเด็นฉาวใช้งบประมาณแผ่นดิน ซื้อโฆษณาหนังสือพิมพ์โปรโมตข่าวด้านบวกให้ตัวเอง
โดยปรากฏการณ์สะท้อน “สปิริต” ผู้นำระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงกันบ่อย นายกฯยอมไขก๊อกกันง่ายๆ ไม่ทานทนต่อแรงเสียดทาน ไม่ฝืนกระแสต่อต้านของประชาชน
เทียบกับประเทศไทย ผู้นำ อึด ถึก ทน กว่าหลายเท่านัก ท่ามกลางลมพายุการเมืองแปรปรวน สถานภาพรัฐบาลผสมแฝงเชื้อการเมืองเน่า เสถียรภาพในสภาแกว่งไปแกว่งมาเพราะศึกปราบกบฏ ภายนอกม็อบรุ่นใหม่ยกระดับไล่กันรายวัน นอกจากไม่สะทกสะท้าน ไม่มีหลุดอาการส่อไขก๊อก หรือยุบสภา
ล่าสุด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ยังทิ้งไพ่ “สเปโต” ตั้งแต่หัววัน ประกาศก้องประเทศไทยให้ได้ยินกันไปทั่วโลก ขอต่อโปรโมชันอำนาจ อยู่ในตำแหน่งนายกฯอีก 5 ปี
แปลความตามเงื่อนไขเทอมรัฐบาล 4 ปี นั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งธงลากเทอมรัฐบาลปัจจุบันออกไปให้ยาวสุดอย่างน้อย 1 ปี และมั่นใจพร้อมต่อเวลาผู้นำ หลังเลือกตั้งรอบหน้าอีก 1 เทอม 4 ปี
ระดับความมั่นใจล้นทะลัก เกินขีดระดับน้ำที่กำลังท่วมหนัก และไม่ใช่แค่ “กลอนพาไป” ปราศรัยแบบเอามัน ตามปรากฏการณ์ที่ล้อกันกับการขอต่อโปรโมชันเก้าอี้นายกฯอีก 5 ปี อีกทางก็มีปฏิบัติการรุกยึดค่ายพลังประชารัฐ
...
ยุทธการปูฐานรองอำนาจผู้นำตาม “พิมพ์เขียว” กับการส่ง “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ สายตรงทีมตึกไทยฯเข้าไปประกบ เป็นที่ปรึกษา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แชร์อำนาจ ทอนกำลังไอ้ห้อยไอ้โหนข้างเอว “พี่ใหญ่”
โดยปฏิบัติการ “ไอโอ” สไตล์ทีม เสธ.ตึกไทย ปั่นโปรไฟล์ “พีระพันธุ์” ทายาทผู้ก่อตั้งปั๊มน้ำมันสามทหาร อยู่ในขุมข่าย “เซนต์คาเบรียลคอนเนกชัน” เป็นรุ่นน้อง พล.อ.ประวิตร เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ระดับซุปเปอร์คอนเนกชัน
เป็นตัวดีลระดับท็อป เชื่อมประสานได้ทุกฝ่าย ที่แน่ๆคือจัดฉากแห่กระแสกันคึกโครม อารมณ์จัดคิวให้ “เสี่ยตุ๋ย” หอบหิ้วนายชื่นชอบ คงอุดม ลูกชาย “ชัช เตาปูน” นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ติดไม้ติดมือไปเป็น “แต้มประเดิม”
เสริมน้ำหนักที่นายพีระพันธุ์ตีปี๊บ จะมีคนตามแห่มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอีกเยอะ แต่ที่ฟังแล้วไม่เชื่อแน่ๆก็คงจะเป็นทีมประชาธิปัตย์ อดีตค่ายเก่าของนายพีระพันธุ์ ที่รู้มือ รู้ทางกันดี เพราะมันเพิ่งผ่านไปไม่นาน กับการที่ “เสี่ยตุ๋ย” โดดร่วมวงแข่งชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
พ่ายแพ้หมดรูปให้กับ “อู๊ดด้า ศิษย์ชวน” โดนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปาดหน้า ก่อนไขก๊อกมาซบอก “บิ๊กตู่” ขึ้นหม้อกับทีม เสธ.ตึกไทยฯ ผู้นำเชื่อฟัง ชมชอบในบทกุนซือ ว่ากันตามชั้น “พีระพันธุ์” ก็แค่แถว 2 แถว 3 ตกเกรดจาก ปชป.
แต่ก็ไม่มีตัวเลือกมาก สำหรับ “บิ๊กตู่” ที่เพิ่งเกลือกกลั้วกับนักการเมือง เพราะเทียบกับจอมเขี้ยวระดับ “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สันติ พร้อมพัฒน์” ยังไง “เสี่ยตุ๋ย” ก็ดูเชื่องกว่าเยอะ
และตามรูปเกม “พีระพันธุ์” ก็คงเจอรับน้องอีกเยอะ เพราะเริ่มต้นก็เจอตั้งด่านเจาะยาง แบบที่ “ตัวจี๊ด” อย่างนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.ทีมสามมิตร รีบออกมาเตะสกัด ไม่ให้นายพีระพันธุ์รวบหัวรวบหางเป็นหัวขบวนคุมทีม กทม.ของ พปชร.
ตามสภาพ เกมคุมอำนาจภายในพลังประชารัฐ “ไม่เสถียร” ง่ายๆ นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงสภาพกระแสภายนอก บ่งบอกด้วยตัวเลขเชิงวิชาการจากผลสำรวจมาตรฐาน “นิด้าโพล” ที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ “ยุบสภา” โดยเร็ว
ที่สำคัญ ตัวเลขสูงถึงร้อยละ 40.73 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรประกาศว่า 8 ปีคืออยู่ในตำแหน่งไม่เกินเดือนสิงหาคม 2565
ย้อนแย้งเต็มๆกับที่ “บิ๊กตู่” เพิ่งขอต่อเวลาอีก 5 ปี.
ทีมข่าวการเมือง