ผบ.ตร.ควง ผบช.สันติบาล เข้าทำเนียบฯ พบ “บิ๊กตู่” แต่เช้า คาดรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ชุมนุม โดยเฉพาะกรณีหมู่เดวิด คฝ.หนุ่มลูกครึ่งโดนยิงหัวสาหัส โฆษก บช.น. เผยอาการดีขึ้น แต่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แย้มพอรู้ตัวคนยิงแล้ว มีความผิดฐานพยายามฆ่า พบแนวยิงมาจากที่สูง ด้านพนักงานสอบสวนคุม 73 โจ๋ป่วนดินแดง ฝากขังศาลแขวงพระนครเหนือ ศาลแพ่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ม็อบคณะราษฎรฟ้องนายกฯขอเพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชี้จำเป็นบังคับใช้ป้องกันโควิด-19 แพร่ระบาด “เบนจา อะปัญ” ถูกคุมเข้าเรือนจำหลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว คดีปราศรัยจาบจ้วง ด้านศรีสุวรรณแจ้งตำรวจ เอาผิดทะลุฟ้าชักธงแดงขึ้นแทนธงชาติบนยอดโดมธรรมศาสตร์ วันงานรำลึกวีรชน 6 ตุลา

สถานการณ์การชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังมีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า แกนนำหลายคนจะถูกจับกุมบางคนได้ประกันตัว แต่บางคนยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ และยังมีคดีความกันต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสถานการณ์ป่วนเมือง ที่สามเหลี่ยมดินแดงยังมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด หมู่เดวิด-ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กองร้อย 5 กก. อารักขา 1 บช.น. ตำรวจหนุ่มลูกครึ่งเบลเยียมถูกซุ่มยิงเจาะหัวอาการสาหัส ขณะปฏิบัติหน้าที่ใต้ถุน แฟลตดินแดงเมื่อคืนวันที่ 6 ต.ค. จน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ลงมาปรับยุทธวิธี พร้อมปูพรม ค้นแฟลตล่ามือปืน จับกุมแก๊งโจ๋ป่วนได้ 73 คน มีเยาวชนร่วมจำนวนหนึ่ง

...

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท. สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ส. เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยไม่มีกำหนดการล่วงหน้า กระทั่งเวลา 09.35 น. คณะ ผบ.ตร. เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ คาดว่า มารายงานเกี่ยวกับการสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่แยกดินแดง ที่ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนถูกยิงบาดเจ็บสาหัส

ส่วนอาการบาดเจ็บของ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษก ตร.เผยวันเดียวกันว่า ได้รับรายงานจากทีมแพทย์ทราบว่า มีการตอบสนองทางสมองที่ดีขึ้น หลังผ่าตัดผู้ป่วยเริ่ม รู้สึกตัว ทำตามที่บอกได้ ลืมตาได้เอง ตาซ้ายบวมปิด และมีรอยช้ำ แขนขาข้างขวาอ่อนแรง แต่ขยับได้ในแนวราบ ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ระดับความเข้มข้นของเลือดต่ำและค่าความแข็งตัวของเลือดผิดปกติ แพทย์ให้เลือดและพลาสมา เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเลือด เอกซเรย์สมองเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ไม่พบ มีเลือดออกเพิ่ม แต่ยังต้องระวังอาการทางสมองและ อื่นๆจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ในหอผู้ป่วยวิกฤติ

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. กล่าวว่า ในคดี ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พอทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนการสอบปากคำผู้ถูกจับกุมทั้ง 73 คน ส่วนใหญ่ถูกชักชวนผ่านโซเชียลมีเดีย ต้องตรวจสอบด้วยว่าเกี่ยวข้องกับกรณียิงตำรวจ คฝ.หรือไม่ ส่วนชนิดกระสุนอยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นวิถีกระสุนแนวยิงนั้นมาจากที่สูง ผู้ก่อเหตุความผิด ข้อหาเป็นพยายามฆ่า ทั้งนี้ ผบ.ตร. เน้นย้ำการปฏิบัติ หน้าที่ต้องมีความปลอดภัยใช้หมวกกันกระสุน หน้ากาก กันกระสุน เสื้อเกราะกันกระสุน ปรับยุทธวิธีโดยใช้งาน ป้องกันปราบปรามยึดพื้นที่ดูแลความปลอดภัยป้องกัน การรวมกลุ่มและผู้ก่อเหตุนำอาวุธมาซุกซ่อนเพื่อใช้ก่อเหตุ

ต่อมา เวลา 09.50 น. ที่ สน.ดินแดง พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. มาตรวจสำนวนสถานการณ์ก่อเหตุความวุ่นวายในสามเหลี่ยมดินแดง รวมทั้งความคืบหน้าคดียิง ส.ต.ต.เดชวิทย์ก่อนเผยว่า ผบ.ตร.กำชับให้เร่งจับกุมผู้ที่ยิง ส.ต.ต.เดชวิทย์ ให้ได้โดยเร็วที่สุด นอกจากจะมาตรวจสำนวนในคดีแล้ว ยังมาเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ตำรวจทุกคนต่างก็เหน็ดเหนื่อยกับการปฏิบัติหน้าที่ อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่าการกระทำ ที่ผิดกฎหมายไม่ส่งผลดีกับผู้ใด

จากนั้น เวลา 13.30 น. ตำรวจ สน.ดินแดง นำตัวกลุ่มวัยรุ่น 19 คน ผู้ต้องหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ไปฝากขังที่ศาลแขวงพระนครเหนือ อย่างไรก็ตาม การจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 73 คน ได้แยกฝากขัง 3 สน. คือ สน.ดินแดง, สน.พหลโยธิน และ สน.ห้วยขวาง ขณะที่ตัวแทนจากกองทุนราษฎรเปิดเผยว่า กองทุนราษฎรจะออกค่าปรับให้กับวัยรุ่นที่ถูกจับกุมทั้งหมด และยื่นหลักทรัพย์ในกรณีที่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว มีทีมทนายความจากศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน คอยดูแลในเรื่องคดีให้ ขณะนี้มีกลุ่มวัยรุ่นถูกควบคุมตัว ใน 3 โรงพัก คาดว่าจะส่งตัวฟ้องศาลพระนครเหนือทั้งหมดในวันเดียวกันนี้

วันเดียวกัน พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. ได้นำเงินสนับสนุนการสืบสวนจับกุมคนร้ายในคดียิง ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน บาดเจ็บสาหัสมอบให้แก่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. และทีมงานสืบสวน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ส่วนสถานการณ์ที่แฟลตเคหะชุมชนดินแดง 1 ถนนดินแดง เมื่อเวลา 18.30 น. มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ในพื้นที่ บก.น.9 เช่น สน.หลักสอง สน.ภาษีเจริญ สน.แสมดำ และ สน.บางขุนเทียน มายืนเฝ้าบริเวณปากซอยและเข้า-ออกอย่างแน่นหนา เช่นเดียวกับภายในซอยต่างๆ มีกำลังสายตรวจเดินเท้าสอดส่องความปลอดภัยโดยรอบอย่างแข็งขัน ยังไม่มีกลุ่มวัยรุ่นมารวมตัวกันที่บริเวณแฟลตดินแดง 1 แต่อย่างใด เช่นเดียวกับที่ถนนมิตรไมตรี เหตุการณ์ทั่วไปยังคงอยู่ในภาวะปกติ

ส่วนคดีความที่เกี่ยวกับการชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ยื่นคำร้องฝากขัง น.ส.เบนจา อะปัญ อายุ 22 ปี แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมผู้ต้องหาคดีความผิดดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดอื่นเกี่ยวกับการชุมนุม ทางวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ คำร้องบรรยายว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.64 ผู้ต้องหากับพวก จัดกิจกรรมปราศรัยหน้าอาคารชิโน-ไทย ทาวเวอร์ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา โจมตี การทำงานของรัฐบาลและดูหมิ่นสถาบันฯ ขอฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-19 ต.ค. ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาญาติผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์จำนวนหนึ่ง ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะควบคุมส่งที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

วันเดียวกัน ที่ศาลแพ่ง ยังมีคำสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ในคดีที่นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ กับพวก ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 6 คน ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้ไม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้น และขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ศาลแพ่งได้ไต่สวนและมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 1 ออกข้อกำหนดห้ามมิให้มีการชุมนุม ทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ในสถานที่แออัดหรืออันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย เพื่อป้องกันและระงับยับยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ปัจจุบันยังพบการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวในประเทศ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต แม้โจทก์ทั้งสามจะอ้างว่าไม่มีหลักฐานใดชี้ให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวมาจากการชุมนุมสาธารณะ แต่การรวมกลุ่มทำกิจกรรมของบุคคลจำนวนมากย่อมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวได้ง่าย คำร้องของโจทก์ทั้งสามยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ และยังไม่มีความจำเป็นเพื่อคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ให้ยกคำร้อง

ก่อนนี้ช่วงเวลา 11.00 น. ที่ สน.ชนะสงคราม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์การพิทักษ์ รัฐธรรมนูญไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ “กลุ่มทะลุฟ้า” เอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.118, พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 ม.53, ม.54 รวม 3 คน กรณีชักธงชาติไทยลงจากยอดเสาโดมใน มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ก่อนนำธงแดงของกลุ่มทะลุฟ้าชักขึ้นไปแทนที่ เป็นการกระทำที่ท้าทายกฎหมายบ้านเมือง ขณะจัดกิจกรรมงานรำลึกวีรชน 6 ตุลา ครบรอบ 45 ปี

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การเข้าร้องทุกข์ในวันนี้ เพื่อจะเตือนไปยังน้องๆทุกคน การใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญสามารถแสดงได้ แต่มีข้อยกเว้นไว้ 3 ประการ 1.ความมั่นคง 2.การแพร่ระบาดของเชื้อโรค 3.การรักษาความสงบและศีลธรรมอันดีของสังคม ขณะที่ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้ออกมารับเรื่องดังกล่าว พร้อมจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ส่วนที่ จ.นนทบุรี ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ออกหมายเรียกแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊ส และเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี 16 คน มารับทราบข้อกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง หลังก่อเหตุที่ปิดท่าน้ำ นนทบุรี ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี ตรวจความพร้อมการรับสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อวันที่ 30 ก.ย. โดยตำรวจนำลวดหนามหีบเพลงขึงกั้นถนน 3 จุด คือถนนนนทบุรี 1 หน้าเรือนจำกลางบางขวาง จุดที่ 2 ทางสามแยกด้านข้าง สภ.เมืองนนทบุรี ติดหอนาฬิกา จุดที่ 3 ริมเขื่อนติดแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเสริมตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) 4 กองร้อย และท้องที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งสิ้นประมาณ 700 นาย

กระทั่งเวลา 10.00 น. มีแกนนำมารับทราบข้อกล่าวหารวม 10 คน รวมทั้งนางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือเจมส์ นายมินทิรา บูรพาชัชวาล หรือน้องซิน น.ส.บังอร แซ่เหลียง หรือป้าบังอร ทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังสอบปากคำตำรวจได้ปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนที่แยกหอนาฬิกา ท่าน้ำนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ที่พยายามจะเข้าด้านในพื้นที่ควบคุม แจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ดำเนินคดี สั่งปรับเป็นเงิน 1,000 บาท ก่อนปล่อยตัวไป

ที่ สภ.คอหงส์ จ.สงขลา 9 แกนนำจัดกิจกรรม “รวมพลราษฎร์หาดใหญ่” นำขบวนคาร์ม็อบมารวมตัวกันที่หน้ามณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ประกอบด้วยนายประคุณ ปานเลห์ น.ส.ธนัดดา แก้วสุขศรี น.ส.จริงใจ จริงจิตร น.ส.ปทุมมา ตั้งพิพัฒน์มงคล นายอภิศักดิ์ ทัศนี หรีือน้านิ่ง นายธีรุตม์ สันหวัง นายศุภกร ขุนชิต นางอัษฎา งามศรีขำ หรือป้าอัด และ นายดอลดูล ปาลาเร่ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา 5 ข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัย หรือความสะดวกในการจราจร ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันส่งเสียงทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุสมควร นำวัสดุหรือสิ่งอื่นใดมาปิดบังแผ่นป้ายทะเบียนรถจนไม่สามารถมองเห็นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ใช้เวลาสอบปากคำกว่า 4 ชั่วโมง ทั้งหมดให้การปฏิเสธ จากนั้นตำรวจปล่อยตัวกลับไป