ครม. อนุมัติงบกลาง 2.7 หมื่นล้าน ช่วยผู้ถือบัตรคนจน บรรเทาค่าน้ำ-ค่าไฟต่ออีก 12 เดือน เตรียมเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยที่ตกหล่น
วันที่ 21 ก.ย. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.รัชดา ธนาดิเรก และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย นายธนกร กล่าวถึงมติที่สำคัญหนึ่งในนั้นคือมาตรการบรรเทาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ซึ่ง ครม. วันนี้อนุมัติงบประมาณงบกลางปี 2564 จำนวน 27,005.66 ล้านบาท สำหรับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายแบ่งเป็น 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำค่าไฟให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิมต่อไปอีก 12 เดือน ตั้งแต่ ต.ค. 2564-ก.ย. 2565 วงเงิน 2,018 ล้านบาท บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในส่วนค่าไฟ 1.9 ล้านครัวเรือน และค่าน้ำประปา 186,625 ครัวเรือน
ค่าไฟฟ้า
- กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ให้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรี ตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
- กรณีใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
ค่าน้ำประปา
- สนับสนุนค่าน้ำประปา วงเงิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน
- กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระด้วยตนเอง
- กรณีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรับภาระในการชำระค่าน้ำประปาเองทั้งหมด
...
2. จัดสวัสดิการแห่งรัฐแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.56 ล้านคน วงเงิน 18,815 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเบี้ยความพิการ สำหรับผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ
- ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สำหรับค่าซื้อสินค้าอุปโภค/บริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆ โดยผู้มีสิทธิที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับ 200 บาท/คน/เดือน ในส่วนผู้มีสิทธิที่มีรายได้ ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับ 300 บาท/คน/เดือน และได้รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 55 บาท/คน/3 เดือน
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาทิ ค่าโดยสาร ขสมก. ระบบ e-Ticket รถไฟฟ้า บขส. รถไฟ อย่างละ 500 บาท/คน/เดือน
- เบี้ยความพิการ จำนวน 1,000 บาท/คน/เดือน
3. ดำเนินโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ วงเงิน 1,642 ล้านบาท สำหรับการลงทะเบียนรอบใหม่นี้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มตกหล่นที่ไม่สามารถเข้าถึง ไม่ผ่านคุณสมบัติผู้มีรายได้น้อยในรอบที่แล้ว
4. การจัดสรรสวัสดิการให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ วงเงิน 4,530.66 ล้านบาท โดยคาดว่าการปรับการลงทะเบียนรอบใหม่จะทำให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มมากขึ้น ครอบคลุมผู้ตกหล่น และจะได้รับสวัสดิการเช่นเดียวกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ครม. อนุมัติในครั้งนี้
“การช่วยเหลือลดอัตราค่าน้ำค่าไฟ ตลอดจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่รัฐบาลห่วงใยเพื่อให้สามารถเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและกระจายรายได้ รวมทั้งการยกระดับและพัฒนา คุณภาพชีวิตแก่ประชาชนให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”