โฆษกเพื่อไทย ปลุก รัฐประหาร 49 รัฐบาลทักษิณ คือ จุดเริ่มต้นของการสูญเสียโอกาส ประเทศตกหลุมดำ แขวะ ทำประเทศ “กำลังพัฒนา” กลายเป็นประเทศ “ห้ามพัฒนา”
นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 19 กันยายน 2549 คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ทำรัฐประหารรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร คือ จุดเริ่มต้นแห่งความอัปยศของประเทศ รัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด ถูกยึดอำนาจ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนและเพื่อประชาชนถูกทำลายลง ทั้งที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง มุ่งสร้างนโยบายเพื่อตอบสนองกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศตามหลักการประชาธิปไตย คนไทย 60 ล้านคน กำลังมีชีวิตที่ดีในรัฐบาล ดร.ทักษิณ ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของ “อำนาจประชาชน” (Citizen power) มาสู่นโยบายหลายด้านที่สร้างโอกาสการมีชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน เริ่มต้นที่ระบบสาธารณสุข อย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค จนกลายเป็นฐานที่แข็งแรงปลอดภัยให้กับชีวิตประชาชน มาสู่การสร้างมุ่งสร้างรายได้ให้ประชาชน ผ่านนโยบายกองทุนหมู่บ้าน หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ทำให้ประชาชนทุกคนมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ หารายได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องรอรัฐแจกเงิน ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่เป็นอย่างทุกวันนี้โดยสิ้นเชิง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมา 15 ปี ประเทศไทยไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
นางสาวอรุณี กล่าวอีกว่า ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย แต่วันนี้กลับกลายเป็นประเทศที่ต่างชาติเมินหันหลังให้ เพราะรัฐประหารบ่อยครั้งจนเคยชินจากประเทศ “กำลังพัฒนา” มาสู่ประเทศ “ห้ามพัฒนา” เพราะมีผู้นำประเทศคนเดียวกับคนที่ลงมือทำรัฐประหาร ประชาคมโลกไม่ยอมรับ เมื่อทหารปกครองประเทศ ทำให้ประเทศสูญเสียทุกด้าน ทั้งรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด สูญเสียสิทธิเสรีภาพ โอกาสทางการแข่งขัน สูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นคน สูญเสียโอกาสที่จะได้รับสวัสดิการที่ดี เศรษฐกิจปากท้องที่ประชากรต้องกินอิ่มนอน เงินในกระเป๋าต้องมี หลายคนได้เงินล้านเพราะรัฐบาลทักษิณ แต่ทุกวันนี้มีแต่หนี้ คนไทยจนหมดประเทศเป็นจริงแล้ว สมกับที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้เคยกล่าวเอาไว้
...
“รัฐประหารในปี 2549 คือบ่อนทำลายช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของคนไทยให้ตกลงไปสู่หลุมดำที่ไม่มีทางปีนกลับขึ้นมาแม้เสี้ยวหนึ่งของจุดเดิมได้ สิ่งเดียวที่จะทำให้ความชั่วร้ายที่ชื่อ “รัฐประหาร” หมดไป คือ ความรู้สึกสำนึกชอบในความเป็นคน ของใครก็ตามที่มีส่วนเริ่มต้นที่ทำให้มันเกิดขึ้น” นางสาวอรุณี กล่าว.