รองนายกฯ จุรินทร์ ระบุ เปิดประเทศนับหนึ่งไปแล้ว ต้องดูความพร้อม ความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่เป็นกรณี พิจารณาเศรษฐกิจกับโควิดให้เกิดความสมดุลกัน หนุนเปิดเกาะพยามเพิ่ม

วันที่ 18 ก.ย. 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงกรณีการเปิดประเทศใน กทม. วันที่ 15 ต.ค. นี้ว่า
ขณะนี้ต้องถือว่าได้มีการนับหนึ่งไปแล้ว เพียงแต่เป็นการทยอยเปิดในพื้นที่ที่มีความพร้อม และมีความเหมาะสม ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุดคือ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัส ซึ่งได้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ซึ่งในช่วง 2 เดือน นับตั้งแต่ 1 กรกฎาคม – สิ้นเดือนสิงหาคม มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาภูเก็ต 31,000 กว่าคน แต่ประเด็นใหญ่ก็คือ เมื่อคิดจะขยายจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไปเป็นอันดามัน แซนด์บ็อกซ์ เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวที่มาพักภูเก็ตครบ 7 วัน แล้วเดินทางต่อไปยังพังงา กับ กระบี่ ยังเป็นเรื่องที่จะต้องเร่งขยายผลให้บรรลุเป้าหมายต่อไป แม้จังหวัดพังงาจะพร้อมแล้วในบางพื้นที่ที่กำหนดไว้ เช่น เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ หรือจังหวัดกระบี่ ที่เกาะไหง ไร่เลย์ เกาะพีพี แต่ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 31,000 กว่าคน ที่เดินทางไปยังพังงา กระบี่ ยังมีจำนวนน้อย เป็นตัวเลขเพียงหลักร้อย ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่จะเป็นการบ้านสำหรับทุกฝ่ายที่จะต้องช่วยกันกระจายนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตต่อไปยังพังงา กระบี่ ต่อไป

นอกจากนี้ รองนายกฯ จุรินทร์ ยังเห็นว่าจังหวัดที่ควรจะได้เดินหน้าต่อคือ การนำจังหวัดระนองเข้ามารวมกับอันดามัน แซนด์บ็อกซ์ โดยเฉพาะเกาะพยาม ซึ่งหลังจากได้รับเรื่องจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดระนองที่เห็นว่า เกาะพยามมีความเหมาะสม และตนได้ดูเบื้องต้นแล้วก็เห็นว่ามีความเหมาะสม อีกทั้งใช้จำนวนวัคซีนไม่มาก เพียงหลักพันโดสเท่านั้น ก็สามารถเปิดเกาะพยามได้ จึงได้แจ้งเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทราบแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้สั่งการให้นำเรื่องนี้ไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาพื้นที่อื่นเพิ่มเติมด้วย เช่น เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน เป็นต้น

...

“การเปิดประเทศได้ดำเนินการอยู่แล้ว และได้นับหนึ่งมาแล้วตั้งแต่ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ต่อไปจะมีพื้นที่ไหนอีก เช่น กรุงเทพมหานคร อันนี้ก็จะต้องมีการพิจารณาร่วมกันระหว่างรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้รับผิดชอบในพื้นที่กรุงเทพ เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ เวลา ศบค. จะเคาะว่าจะเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวตรงไหนก็ฟังความเห็นผู้ว่าราชการด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นกรุงเทพ ถ้าจะถามว่าจะเปิดเมื่อไหร่ ก็ต้องอยู่ที่ความเห็นร่วมที่จะได้มีการพูดคุยกันต่อไป หลักของการเปิดประเทศยังมีอยู่ เพราะท่านนายกฯ ประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว แต่จะเปิดตรงไหนอย่างไรก็ต้องดูความพร้อม ความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่เป็นกรณี เป็นพื้นที่ไป โดยดูเศรษฐกิจ กับโควิดให้เกิดความสมดุลกัน ให้สามารถดูแลทั้งสองเรื่องได้ในเวลาเดียวกัน” รองนายกฯ กล่าว