“ประยุทธ์” อารมณ์ดีลงพื้นที่สมุทรปราการ ฟุ้งต้องสู้กับปัญหาเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น ย้ำหัวตะปูไม่ปรับ ครม. ลั่นรัฐบาล-พปชร. ไม่มีแตกแยก เชื่อ “พี่ป้อม” ไม่น้อยใจลาออกทิ้ง หน.พรรค ลูกหาบดาหน้ากลบข่าวโลงแตก-เรือแป๊ะรั่ว โฆษกรัฐบาลโอ่แค่ปัญหาเล็กๆน้อยๆไม่ถึงยุบสภา อยู่ยาวครบเทอม โฆษก พปชร.โต้ “หน.ป้อม” ลาออกข่าวลือ ไม่มีมูลความจริง “ไพบูลย์” โวคลื่นลมสงบนิ่งถึง มิ.ย.65 ยันชู “ประวิตร” นำทัพลุยเลือกตั้งครั้งหน้า “เอกราช” บอกว่าไม่มีอะไรเปลี่ยน ย้ำไม่ตั้งพรรคอีสานล้านนา รอ 1 เดือนฝุ่นจางทุกอย่างชัด “ธรรมนัส” โผล่พาลูกเมียเดินห้างช็อปปิ้ง พท.ขย่มซ้ำจ่อยื่นซักฟอกไม่ลงมติเดือน พ.ย. ชงแก้ พ.ร.บให้ผู้สมัคร ส.ส.กับพรรคใช้เบอร์เดียว “สุทิน” ห่วงถึงทางตันยุบสภา ฉุด ก.ม.ลูกแท้ง “โจ้” ไล่ “ลุงป้อม” ไขก๊อก แค่ป้อง “นฤมล” ยังทำไม่ได้

สถานการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถูกจับจ้องว่ากำลังลุกลามจนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมระบุต้องสู้กับปัญหา พร้อมยืนยันเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น ยืนยันไม่มีปัญหาความแตกแยก

...

นายกฯไปปากน้ำ ส.ส.–มาดามตู่แห่รับ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่ จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สมุทรปราการ ถือเป็นการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดครั้งแรกหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและผ่อนคลายมาตรการ โดยจุดแรกไปตรวจเยี่ยมสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี อ.บางพลีมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมคณะ ขณะที่ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพปชร. นำโดยนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ นายยงยุทธ สุวรรณบุตร น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ รวมทั้งนางนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ นายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ คณะผู้บริหารสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ รอต้อนรับ โดย พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางถึงได้กล่าวทักทาย ส.ส.พรรค และฝากให้ช่วยดูแลประชาชนพื้นที่ ก่อนจะถามหานายก อบจ.สมุทรปราการอยู่ไหนๆ พร้อมกล่าวขอให้ช่วยกันดูแลประชาชน

ขอสู้ปัญหาลั่นเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯเยี่ยมชมจุดฉีดวัคซีนได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่และข้าราชการว่าขอให้ทุกคนช่วยกัน ช่วยรัฐบาล ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันมันไปไม่ได้ทั้งนั้น วันนี้อารมณ์ดีมาก ขณะที่มีเจ้าหน้าที่จุดตรวจฉีดวัคซีนตะโกนให้กำลังใจ “นายกฯสู้ๆ ให้กำลังใจนะคะ” ขณะที่นายกฯหันไปตอบว่า “สู้กับปัญหา นายกฯต้องสู้กับปัญหา สู้เพื่อพวกเรา เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น” และได้หันไปคุยกับ ส.ส.พรรค พปชร.ว่า ขอให้ ส.ส.ไปดูเรื่องการค้าขายทางออนไลน์ การค้าขายสมัยใหม่ เราต้องเดินหน้าออนไลน์ รัฐบาลทำไว้ให้หมดแล้ว ต้องยกระดับประชาชนให้ได้ การเมืองต้องทำอย่างนี้ จากนั้นนายกฯได้กล่าวทักทายกับประชาชนที่มารอรับบริการฉีดวัคซีน

ยันดูแลทุกพรรคช่วย ปชช.ทุกพื้นที่

ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ชั้น 3 อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรนฤบดินทร์ พล.อ.ประยุทธ์ประชุมร่วมส่วนราชการรับฟังแผนบริหารจัดการน้ำ และปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ แล้วเดินทางมาตรวจสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ จากนั้นเวลา 15.35 น. นายกฯประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการลงพื้นที่ประชุมร่วมกันระหว่างรัฐบาล ท้องถิ่น และ ส.ส.ในพื้นที่ ยืนยันว่าตนต้องดูแลคนทั้งประเทศ ไม่ว่าที่ไหน จะเป็นพื้นที่ของใครก็แล้วแต่ ตนจะมาให้ทุกที่ วันหน้าจะปรับแผนงานของตนให้ลงพื้นที่ให้ได้ และจะรับฟังความคิดเห็น ส.ส.ในการดูแลประชาชน ตนยืนยันว่าตนดูแลทุกพรรคการเมือง เพราะตนดูแลประชาชน เป็นรัฐบาลของประชาชน ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วยว่าสิ่งใดๆก็ตามที่เสนอมาตนก็รับไว้ และไปดูว่าคุณจะทำอย่างไร แค่ไหนอย่างไร ทำได้หรือไม่ได้ กฎหมายว่าอย่างไร งบประมาณมีหรือไม่ ผิดหรือไม่ ต้องทำให้สุจริต โปร่งใส ถูกต้องตามกฎระเบียบ

จัดเวลาลงพื้นที่พบ ส.ส.เท่าเทียม

นายกฯกล่าวว่า ฝากไปถึง ผวจ.และทุกกระทรวง ขอให้ดูแลนโยบายที่นำเสนอมาโดย ส.ส. ที่อยู่ในคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ต้องรับแผนงานของ ส.ส.มาบริหารด้วย ในพื้นที่ไม่ว่าของใครให้ความเป็นธรรมในพื้นที่ เพราะเป็นคำตอบให้กับประชาชนถูกต้องไหม น่าจะคิดไม่ผิด เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้ระยะห่างระหว่าง ส.ส.กับนายกฯลดน้อยลง พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ก็มาหาอยู่นี่ไง ถ้ามีเวลาจะไปเยี่ยมเยียน รับฟังปัญหา ส.ส.ทุกคนแล้วนำมาดูอะไรทำได้หรือไม่ได้ ติดปัญหาตรงไหน แล้วจึงบริหารงบฯให้เพียงพอ เมื่อถามว่า จะเข้าไปดูแลในส่วนพรรค พปชร.อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า อย่างวันนี้มารับฟังในสิ่งที่เขาพูดอยู่แล้วและรับฟังทุกพรรค ในสภาตอบกระทู้อยู่ทุกวัน ลงพื้นที่ก็มาสอบถามข้อเท็จจริงโครงการนี้ทำไมถึงทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นของใคร

ย้ำหัวตะปูยังไม่ปรับ ครม.ตอนนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทนตำแหน่งที่ว่างลง 2 ตำแหน่ง นายกฯกล่าวว่า ยังไม่ปรับตอนนี้ ไม่ต้องห่วงมีคนทำงาน คนรักษาการอยู่แล้ว ตามที่ได้แบ่งหน้าที่การบริหารราชการ ที่มอบหมายให้ดูแลไปแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงจะเป็นผู้รับผิดชอบ

ลั่นไม่มีแตก เชื่อ “พี่ป้อม” ไม่น้อยใจลา

เมื่อถามว่า ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา มีกระแสข่าวเกิดแรงกระเพื่อมในพรรค พปชร. พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “ปัญหาตรงไหนหรือ” ผู้สื่อข่าวตอบว่า กระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร. น้อยใจจะลาออกจากหัวหน้าพรรค พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อุ๊ย! ไม่มีใครใจน้อยขนาดนั้นหรอกมั้ง” เมื่อถามว่านายกฯจะสยบภาพของความแตกแยกที่เกิดขึ้นในเวลานี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ที่ระหว่างเดินออกจากโพเดียมได้โบกมือก่อนจะตอบเสียงหนักแน่นว่า “ไม่มีแตกแยก ไม่มี”

โฆษก รบ.ยันไม่ยุบไปต่อครบเทอม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่ายืนยันการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆในรัฐบาล เชื่อรัฐบาลจะอยู่ครบเทอม ไม่มีเหตุผลอะไรต้องยุบสภา เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ขณะนี้นายกฯไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง เอาเวลาทั้งหมดไปแก้ปัญหาให้บ้านเมืองและประชาชน โดยเฉพาะโควิด-19 เยียวยาและฟื้นฟูประเทศ เร่งฉีดวัคซีนมากที่สุดเพื่อเปิดประเทศได้ ถ้ายุบสภาเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สิ่งที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการอาจต้องหยุดชะงักไปด้วย ยุบสภาฯนอกจากไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว อาจซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปอีก ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังช่วยกันทำงานเต็มที่ ปัญหาเล็กๆ น้อยๆทางการเมืองอาจมีบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นต้องยุบสภา รัฐบาลอยู่ครบวาระแน่นอน

โฆษก พปชร.โต้ “ป้อม” ไขก๊อกข่าวลือ

ด้าน น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะลาออกจากพรรคว่า เป็นเพียงข่าวลือไม่มีมูลความจริง ยืนยันพรรคยังคงมีความพร้อมและยึดมั่นในการบริหารนโยบายผ่านรัฐมนตรีของพรรค ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์จนถึงขณะนี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐยังคงทำงานและหารือกับ ส.ส. และสมาชิกพรรคอย่างต่อเนื่อง มุ่งแก้ปัญหาของประชาชนแต่ละพื้นที่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ ช่วยรัฐบาลควบคุมสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงภัยแทรกซ้อนอื่นๆ ทั้งอุทกภัยหลายพื้นที่ปัญหาพืชผลทางการเกษตร และการบริหารจัดการน้ำ ส่วนกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ แต่ถึงอย่างไรถือเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองที่ต้องมีปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อความเหมาะสมในการขับเคลื่อนนโยบายพรรคต่อไป

ชู “ป้อม” ผู้นำพรรคถึง ลต.สมัยหน้า

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติทำได้อีกครั้งช่วงเดือน มิ.ย.65 ส่วน พ.ร.บ.งบฯปี 66 เริ่มเดือน ส.ค. จนถึงเดือน มิ.ย.65 รัฐบาลไม่มีปัญหาหรือผลกระทบอะไรต้องยุบสภาตามที่เป็นข่าว อย่างน้อยไปถึง มิ.ย.65 รัฐบาลมีเสถียรภาพบริหารประเทศ ไม่มีเหตุยุบสภา มีเวลาคลื่นลมสงบจนถึง มิ.ย.65 เมื่อถามว่าปัญหาในพรรคจะกระทบเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่นายไพบูลย์ตอบว่า พล.อ.ประวิตรยืนยันไม่ลาออก คือการไม่ปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคใดๆ ทุกอย่างนิ่ง ส.ส.และสมาชิกพรรครักเคารพ พล.อ.ประวิตรเป็นหนึ่งเดียว อยากเห็นพรรคไม่มีแรงกระเพื่อม อย่างที่ให้สัมภาษณ์ไม่มีการปรับโครงสร้างพรรค เป็นหัวหน้าพรรคที่ครองใจ ส.ส.ในพรรคทั้งหมด เชื่อมั่น 100% พล.อ.ประวิตรยังเป็นผู้นำทัพพปชร.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะเป็นศูนย์รวมใจ ส.ส.ทำให้พรรค พปชร.เป็นหนึ่งเดียว เข้มแข็งที่สุด พรรค พปชร.ได้แจ้ง ส.ส.ว่าวันที่ 15 ก.ย. จะมีการประชุม ส.ส.เวลา 09.00 น. ที่ชั้น 6 ห้องพรรคพปชร. อาคารรัฐสภา พล.อ.ประวิตรเข้าร่วมประชุมด้วยขอให้มาร่วมกันทุกคน

“พี่ป้อม” คุย 2 ป.ไม่น้อยใจจูงกันไปต่อ

เมื่อเวลา 21.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์ถึงกระแสข่าวตามหน้าสื่อที่มองว่าขัดแย้ง กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว. กลาโหมว่า คุยหมดแล้วทั้งกับ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย คุยกันตามปกติทุกวัน ไม่มีอะไรขัดแย้งหรือแตกแยก “ผมคุย กับนายกฯ คุยกับป๊อกแล้ว ไม่มีขัดแย้ง ไม่แตกแยก เข้าใจกันดี” เมื่อถามว่า ไม่มีน้อยใจใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ไม่มีน้อยใจ ไม่ใจน้อยอะไร ไม่มี สื่อเลิกออกข่าวว่า พี่น้อง 3 ป.ขัดแย้งกันหรือ ผมน้อยใจจะลาออกเสียที ยืนยันเลยว่าไม่มี ไม่ลาออก ทำงานต่อ เมื่อถามว่า จะไม่ลาออกจากหัวหน้าพรรค พปชร. ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ลาออก แน่นอน ทำงานต่อ

“ผู้กองนัส” จะเอาไงไปถามเขาเอง

เมื่อถามว่า คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสกับนางนฤมลแล้ว หรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คุยหมดแล้ว ไม่มีอะไร เมื่อถามว่า แล้ว ร.อ.ธรรมนัสว่าอย่างไรบ้าง จะลาออก จากเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไปถาม ร.อ.ธรรมนัสเอง ตอนนี้ตนไม่ได้เป็นอะไร ปกติดีทุกอย่าง เมื่อวานที่ทานข้าว กลางวันกับเพื่อน ตท.6 รุ่นฝนแรกก็ไม่มีอะไร ทานข้าวกันทุกเสาร์ แต่ไม่ได้ทานข้าวกันนานแล้ว ก็ปกติ ไม่มีอะไร ไม่มีใครมาถามอะไร เรื่องการเมือง ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรือเฮฮาอะไร เพราะเวลาอยู่กับเพื่อนก็คุยเรื่องทั่วๆไป ไม่มีใครมาถาม เรื่องพวกนี้ กินข้าวแล้วก็แยกย้ายกันกลับ

“ธรรมนัส” พาลูกเมียเดินห้างช็อปปิ้ง

สำหรับความเคลื่อนไหว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หลังจากเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กขอบคุณทุกกำลังใจและจะขอทำงานเพื่อประชาชนต่อไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ย. น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยา ร.อ.ธรรมนัส ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านสตอรีอินสตาแกรม jarubjubjib เป็นภาพขณะที่ น.ส.ธนพร พร้อม ร.อ.ธรรมนัส พาลูกชายซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ วันที่ 15 ก.ย.เป็นที่จับตาว่า ร.อ.ธรรมนัสจะเข้าร่วมประชุม ส.ส.พรรคที่สภาฯหรือไม่

แจงโนโหวต รธน.ไม่เกี่ยวปลด 2 ช.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ ขอนแก่น เขต 2 นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ สมาชิกกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรฯ กล่าวถึงการไม่แสดงตัวโหวตลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ว่า เราเห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ถูกต้อง เอื้อประโยชน์ให้นักการเมืองชัดเจน ไม่มีประเด็นใดเป็นประโยชน์ต่อประชาชน คะแนนเสียงที่ประชาชนลงเลือกตั้งไปจะเอื้อให้เฉพาะพรรคใหญ่เท่านั้น พรรคเล็กพรรคน้อยที่ได้ไม่ถึง 350,000 คะแนนจะตกน้ำไป ไม่ถูกนำมาใช้คำนวณเป็นคะแนน ซึ่งหัวหน้าพรรคให้นโยบายไว้ชัดเจนคือฟรีโหวต ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฝุ่นกำลังตลบและวุ่นวายในขณะนี้ ขอทุกฝ่ายอย่าจับแพะชนแกะ เราทำการเมืองกันตรงๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน อย่าไปโยงอะไร

“เอกราช” ย้ำไม่ตั้งพรรคอีสานล้านนา

นายเอกราชกล่าวอีกว่า ส่วนที่ 2 อดีตรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ได้แจ้งไปในพื้นที่แล้วว่าทุกคนยังคงอยู่ในพรรค พปชร.เหมือนเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือปรับระบบอะไร ทั้งหมดต้องรอดูสัญญาณจากหัวหน้าพรรคเท่านั้น รออีกประมาณ 1 เดือนพอฝุ่นจางหายลงไป ความชัดเจนการกำหนดท่าทีหรือแนวทางการเมืองของเราจะไปอย่างไร แต่วันนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ทุกคนคือพรรค พปชร.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร ไม่มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง การตั้งพรรคอีสานล้านนาไม่มีและไม่เป็นความจริง ขออย่าจับแพะชนแกะ กลุ่มภาคอีสานตอนบนขึ้นป้ายกลุ่มอีสานล้านนามา 2 ปีแล้ว ขับเคลื่อนงานผ่านไปแล้ว วันนี้กลุ่มอีสานล้านนาไม่มีแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการตั้งพรรคอีสานล้านนาแน่นอน และพรรคไม่มีกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ทุกคนคือ พปชร. ยืนยันไม่มีพรรคใดมาจีบหรือทาบทามให้ย้ายพรรค

ปชป.เร่งฟื้นพรรคไม่ทะเลาะกับใคร

ที่ จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ พร้อมนางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กําลังใจอสม.และบุคลากรด่านหน้า ที่ รพ.คุระบุรีชัยพัฒน์ อ.คุระบุรี จ.พังงา โดยนายจุรินทร์กล่าวตอนหนึ่งว่า มาถึงวันนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำสำเร็จทุกข้อคือการประกันรายได้เกษตรกร พืชเกษตรสำคัญ 5 ชนิด ประชาธิปัตย์ยุคใหม่ทำได้ไวทำได้จริง เราไม่ทะเลาะกับใครเสียเวลาประเทศ ทำงานให้ประชาชนทั้งประเทศ ประชาธิปัตย์ยุคใหม่จะเดินหน้าสร้างการยอมรับจากประชาชนให้กลับไปเหมือนในอดีตที่เราเคยรุ่งเรือง หลีกเลี่ยงการเป็นคู่ขัดแย้งโดยไม่จำเป็น เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ประชุมร่วมกับสมาชิกพรรค จ.ระนอง ได้เปิดตัวนายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ผู้สมัคร ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นนักธุรกิจวิศวกรหนุ่มคนรุ่นใหม่ อ.กระบุรี

พท.ขยี้ซ้ำซักฟอกไม่ลงมติช่วง พ.ย.

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ในการเปิดประชุมสภาฯสมัยหน้าช่วงเดือน พ.ย. เป็นไปได้ฝ่ายค้านจะพิจารณาขอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ฝ่ายค้านจะหารือกันอีกครั้ง ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ ตามมาตรา 151 ในสมัยประชุมหน้าไม่สามารถทำได้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทำได้ 1 ครั้งต่อ 1 ปีของสมัยประชุมเท่านั้น จะไปเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อีกทีเดือน พ.ค.65 ที่จะเริ่มต้นสมัยประชุมของปีต่อไป

ห่วงทางตันยุบสภา ก.ม.ลูกไม่เสร็จ

นายสุทินกล่าวอีกว่า ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 และ 91 เรื่องระบบเลือกตั้ง ที่ผ่านวาระ 3 ไปแล้ว น่าเป็นห่วงว่าในสถานการณ์การเมืองที่มีความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐอย่างรุนแรง หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว และอยู่ในช่วงแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คาดว่าจะใช้เวลา 4-6 เดือน หากรัฐบาลยุบสภา โดยกฎหมายลูกยังแก้ไขไม่เสร็จจะแก้ปัญหาอย่างไร เดิมเคยเขียนบทเฉพาะกาลในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ กกต.มีอำนาจออกกฎเกณฑ์การจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ได้ แต่ถูกรุมทักท้วงจนต้องถอนออกไป หรือหากให้ไปออกเป็น พ.ร.ก.เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็ไม่ได้ กฎหมายไม่ให้อำนาจรัฐบาลรักษาการออก พ.ร.ก.ได้ ตามประเพณีปฏิบัติไม่เคยมีรัฐบาลรักษาการชุดใดออก พ.ร.ก. หากเกิดอุบัติเหตุการเมืองยุบสภาช่วงนั้นดูไม่ออกว่าจะออกช่องใด เป็นไปได้ที่จะเกิดการยุบสภาในช่วงที่สถานการณ์ การเมืองผันผวนมาก อาจเกิดการยุบสภา

ตั้งแท่นเช็กบิลขับ ส.ส.งูเห่า

นายสุทินกล่าวอีกว่า ส่วนการพิจารณาลงโทษ 7 ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่โหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า วันที่ 13 ก.ย. จะนำข้อมูล ที่คณะกรรมการจริยธรรมพรรคเพื่อไทย รวบรวมเสร็จแล้ว แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หากมีมติขับ ส.ส.คนใดออกจากพรรคจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ส.ส.เพื่อไทย ในวันที่ 14 ก.ย.ว่าจะมีมติขับ ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรคออกจากพรรคหรือไม่ คาดว่าไม่เกินวันที่ 15 ก.ย.ทุกอย่างจะจบ

ส่วนใหญ่อ้างป่วยอยู่โรงพยาบาล

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการจริยธรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่ายังพิจารณาไม่เสร็จ ยังเหลือ ส.ส.2 คนไม่มาให้ข้อมูลคือ นางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานีและนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ให้โอกาสมาชี้แจงถึงเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ไม่มาถือว่าไม่ประสงค์จะชี้แจง จะประชุมช่วงเย็นสรุปเรื่องส่งเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคให้ลงมติชี้ขาด ก่อนส่งให้ที่ประชุม ส.ส.ลงมติ 3 ใน 4 จะขับ ออกจากพรรคหรือไม่ น่าจะรู้ผลชัดเจนสัปดาห์นี้ ส่วน 5 ส.ส.ที่มาชี้แจงแล้วส่วนใหญ่ชี้แจงว่าป่วยรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล มีใบรับรองแพทย์มายืนยันทุกคน บางคนระบุระบบลงคะแนนผิดพลาด พรรคพร้อมให้ความเป็นธรรม ให้ ส.ส.ที่เป็นแพทย์พิจารณาอีกทางว่า อาการป่วยที่อ้างมารุนแรงถึงขั้นไม่สามารถเดินทางมาลงมติได้จริงหรือไม่

หยัน “บิ๊กตู่” พูดไม่เคยตรงปก

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย กล่าวว่าความขัดแย้งพรรคแกนหลักรัฐบาลไม่มีทีท่ายุติลง กลุ่มขั้วอำนาจในพรรคแกนนำรัฐบาล ปล่อยข่าวสร้างกระแสกดดันให้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคและรัฐมนตรีใหม่ ส่งผลให้การเมืองไม่แน่นอน อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจสร้างความบอบช้ำให้ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ปลด 2 รัฐมนตรี ที่ไม่ได้ถูกยื่นอภิปราย นายกฯบอกจะไม่ปรับ ครม.ไม่ยุบสภาหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดูจากสถิติคำพูดไม่ตรงปกเชื่อได้ลำบาก เกือบ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์มุ่งแก้ปัญหาการเมืองเพื่อความอยู่รอดของตัวเองมากกว่าปัญหาประเทศและประชาชนหรือไม่

ชงแก้ ก.ม.ลูกผู้สมัคร-พรรคเบอร์เดียว

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงว่า เมื่อเปิดประชุมสภาสมัยถัดไปเดือน พ.ย. พรรคเพื่อไทยจะเสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ให้เบอร์ผู้สมัคร ส.ส.เขตกับพรรคเป็นเบอร์เดียวกันในการเลือกตั้งทั้งประเทศ ให้ง่ายต่อการจดจำและลงคะแนนของประชาชน บัตรเสียจะมีน้อย อย่างเร็วการแก้กฎหมายลูกใช้เวลา 2-3 เดือน จากนั้นคาดว่ารัฐบาลจะยุบสภา ให้เลือกตั้งใหม่ต้นปี 65 เพราะรัฐบาลบริหารประเทศต่อไปไม่ได้ ไม่มีเงินบริหารประเทศ เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทรอบแรกเกลี้ยงแล้ว ตอนนี้กำลังใช้เงินกู้ 5 แสนล้านบาทอยู่ อีกไม่นานก็เกลี้ยง กู้ใหม่ไม่ได้ นอกจากขยายเพดานกู้ให้เกิน 60% ต้องเสนอเป็น พ.ร.ก.ให้สภาเห็นชอบ แต่เชื่อว่าจะถูกกลุ่มกบฏของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรฯ ที่มี ส.ส.ในมือ 40 คน โหวตคว่ำแน่ เสียงสูงสุดที่รัฐบาลมี 270 เสียง ถ้ากฎหมายการเงินไม่ผ่านสภาฯ นายกฯต้องลาออกหรือยุบสภา แต่เชื่อว่ามาถึงทางตันจะยุบสภา

ไล่ “ป้อม” ไขก๊อกป้อง “นฤมล” ไม่ได้

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า การปลด ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากรัฐมนตรี เกิดแรงกระเพื่อมหนักในพรรค พปชร. โดยเฉพาะปลดนางนฤมลทำให้ พล.อ.ประวิตรนอนไม่หลับ ปลดนางนฤมลทำไม ทำอะไรผิด ถ้า พล.อ.ประวิตรปกป้องนางนฤมลไม่ได้ ทั้งที่เป็นคนมีความรู้ ความสามารถมากกว่านายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่มีกระแสข่าวจะได้เป็น รมว.คลังในการปรับ ครม. ถ้าเป็นเช่นนี้ พล.อ.ประวิตรควรลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร.ไปด้วย ส่วนกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะจับมือพรรค พปชร.ตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งนั้น เลือกตั้งสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยมั่นใจจะเป็นพรรคอันดับ 1 ได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 200 คน จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จึงอยู่ที่พรรคจะเลือกใครมาตั้งรัฐบาล ไม่ใช่พรรคจะไปจับมือกับใคร จะมีแต่คนมาขอร่วมตั้งรัฐบาล

“วันชัย” ชี้ 3 ปัจจัยพา รบ.นับถอยหลัง

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวว่า อนาคตรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังศึกซักฟอกและปลดร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากรัฐมนตรี รัฐบาลจะไปรอดหรือไม่ หรือไปได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ 3 เรื่องดังนี้ 1.เมื่อผู้มีอำนาจแตกกัน รัฐบาลก็พัง 2.เมื่อพรรคร่วมแตกกัน รัฐบาลพัง 3.เมื่อมีการโกงกินทุจริตคอร์รัปชันชัดแจ้ง รัฐบาลพัง ดูเอาแล้วกันว่ารัฐบาลตอนนี้เข้าหรือกำลังเข้าข้อไหน เตรียมนับถอยหลังได้

พ้นซักฟอกคนบี้ รบ.เร่งแก้ปากท้อง

วันเดียวกัน สวนดุสิตโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี คนไทยได้อะไร? จากการ “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,306 คน ระหว่างวันที่ 6-9 ก.ย. พบว่าประชาชนมองว่าจุดเด่นของการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คือเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้แสดงความคิดเห็น ร้อยละ 55.76 จุดด้อยคือมีการใช้คำไม่สุภาพ โต้ตอบกันรุนแรง ร้อยละ 50.82 สิ่งที่ประชาชนได้รับคือทำให้เห็นการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในสภา ร้อยละ 45.29 หลังการอภิปรายคิดว่าการเมืองไทยน่าจะเหมือนเดิม ร้อยละ 54.67 สิ่งที่อยากฝากบอกรัฐบาล คือเร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ร้อยละ 74.31 และอยากให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลจริงจัง ร้อยละ 63.79

เชื่อ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯครั้งสุดท้าย

นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความเป็นไปได้ทางการเมืองของ 3 ป.” ความเป็นไปได้ทางการเมืองของ 3 ป. สำรวจผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,310 หน่วยตัวอย่าง เมื่อวันที่ 6-9 ก.ย. เรื่องความเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะดำรงตำแหน่ง นายกฯครั้งนี้เป็นสมัยสุดท้าย ร้อยละ 32.06 ระบุเป็นไปได้มาก ร้อยละ 30.53 ค่อนข้างเป็นไปได้ ร้อยละ 22.60 เป็นไปไม่ได้เลย ร้อยละ 10.84 ไม่ค่อยเป็นไปได้ ร้อยละ 3.97 ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ส่วนความเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประวิตรจะได้เป็นนายกฯหลังเลือกตั้งครั้งหน้า เสียงส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.82 ระบุเป็นไปไม่ได้เลย ร้อยละ 13.97 ไม่ค่อยเป็นไปได้ ร้อยละ 13.51 ค่อนข้างเป็นไปได้ ร้อยละ 4.66 เป็นไปได้มาก ขณะที่ความเป็นไปได้ว่า 3 ป. จะยังคงมีบทบาทจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งสมัยหน้า ร้อยละ 39.47 ระบุค่อนข้างเป็นไปได้ ร้อยละ 23.28 เป็นไปไม่ได้เลย ร้อยละ 20.69 ระบุว่าเป็นไปได้มาก ร้อยละ 12.21

จี้ “ตู่” แก้วิกฤติ โละ รมต.ยี้-ขรก.ห่วย

ด้านซูเปอร์โพลเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่องการตัดสินใจของนายกฯกับการคัดคนดีเสริมทีม จาก 1,224 ตัวอย่างเมื่อวันที่ 10-11 ก.ย. พบว่าร้อยละ 98.4 สนับสนุนให้ปรับ ครม.เอาคนไม่มีผลงานออก นำคนดีมีความสามารถ สังคมยอมรับมาเสริมทีม ร้อยละ 98.3 ยังคงจดจำคำพ่อสอน ส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมืองควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ เสียงส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.6 ต้องการเห็นนายกฯจัดการผู้กระทำผิดกฎหมายเด็ดขาดทุกกรณีไม่ปล่อยคนชั่วลอยนวล และร้อยละ 90.1 สนับสนุนปรับย้ายข้าราชการครั้งใหญ่ช่วงเดือนต.ค. เอาข้าราชการที่ดี เก่ง กล้าช่วยประชาชนมา และเอาข้าราชการไม่มีผลงานไปอยู่ที่เหมาะสม ที่สำคัญกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 98.6 ต้องการเห็นพล.อ.ประยุทธ์พิสูจน์ผลงานขับเคลื่อนนโยบายและกลไกรัฐ แก้วิกฤติชาติและประชาชนให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นไปอีก