แนวร่วมราษฎรหลายกลุ่มจัดคาร์ ม็อบ 11 ก.ย. มุ่งหน้าศาลธัญบุรี กดดันให้อนุมัติปล่อยตัวชั่วคราว “เพนกวิน” พร้อมแกนนำรวม 5 คน โดยมีทนายสิทธิฯยื่นคำร้องศาลพิจารณาแล้วไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ยกคำร้อง ชวดปล่อยตัวชั่วคราวทั้งหมด แม่เพนกวินยันลูกโดนจับหัวโขกพื้นขณะย้ายจาก รพ.ราชทัณฑ์ กลับเรือนจำ “นครบาล” รับปากพยายามจัดการม็อบดินแดงให้สงบภายในเดือน ต.ค. ราชทัณฑ์เตรียมส่งตัว “ไผ่ ดาวดิน” กลับเรือนจำ หลังรักษาโควิด-19 หายแล้ว

กรณีความเคลื่อนไหวทางการเมืองขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ก.ย. เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน นำโดย น.ส.ธนพร วิจันทร์ ร่วมกับกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group-DRG นำโดย น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว กลุ่มรังสิตพะยอมเก่า และกลุ่ม Supportcer Thailand นัดรวมพล
จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ 11 ก.ย. มุ่งหน้าหาเพื่อนเรา

ที่ศาลธัญบุรี ไปกดดันศาลให้ปล่อยเพื่อนเรา รวมพลบริเวณหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต มุ่งหน้าไปที่ศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อกดดันให้ศาลปล่อยแกนนำที่ถูกจับกุม ประกอบด้วยนายธัชพงศ์ หรือบอย แกดำ นายพรหมศร หรือฟ้า วีระธรรมจารี นายณัฐนน ไพโรจน์ และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน บริเวณจุดรวมพลหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต มีรถยนต์และรถ จยย.เข้าร่วมประมาณ 30 คัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จัดกำลังคอยดูแลความสงบ ก่อนเดินทางไปศาลจังหวัดธัญบุรีร่วมกันตะโกนให้ศาลปล่อยเพื่อนเรา เพื่อยื่นขอประกันตัว เวลา 11.00 น. ก่อนเคลื่อนขบวนไปถึงหน้าที่ทำการศาลอาญาจังหวัดธัญบุรี เปิดปราศรัย ชูสามนิ้วตะโกนให้ปล่อยเพื่อนเรา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี ตรึงกำลังรอบที่ทำการศาล นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาพร้อมญาติผู้ต้องหา นำโดยนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาเพนกวิน นางยุพิน มะณีวงศ์ มารดาไมค์ ระยอง และนางสุนีย์ ไชยรส อดีตอาจารย์และอดีตคณะกรรมการสิทธิฯ เตรียมเอกสารยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด

...

นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำคาร์ม็อบ 11 กันยายน กล่าวว่า วันนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะได้ประกันหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในดุลพินิจของศาล แต่หวังว่าศาลจะมีความยุติธรรม ใช้หลักในการพิจารณาอย่างเหมาะสม เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้ขัดขืนหรือว่าหลบหนี พร้อมเข้าสู่กระบวนการพิจารณา

นางสุรีย์รัตน์กล่าวว่า วันนี้มีแม่ๆของน้องที่มาร่วมยื่นประกันตัวเด็กๆ เพราะเด็กเพิ่งถูกย้ายตัวจากโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ ดูว่าศาลจะพิจารณาอนุมัติหรือไม่ แม่ไม่รู้มาก่อนว่าเพนกวินถูกย้ายตัว แม่ตกใจเพราะพี่บอยฟ้องว่าถูกทำร้ายคือ มีคนเจ้าหน้าที่ 10 คน รุมเพนกวินคนเดียวจับหัวโขกพื้น เพนกวินไม่ได้ขัดขืน เพราะเขาจะเอาตัวไปฝากขังเรือนจำธัญญะ เพนกวินไม่ได้ว่าอะไรแต่ขอทานข้าวก่อนและขอพบทนายแค่นั้น แต่เจ้าหน้าที่บอกไม่ได้และพูดจาหยาบคาย แม่ขอยืนยันว่าเพนกวินถูกทำร้ายและจุดประสงค์เป้าหมายเพนกวินคนเดียว

นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เดิมทีคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน ศาลให้ประกันตัวแล้ว 4 คน เหลือ 5 คน ทุกคนถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 อัตราโทษไม่สูง ถามว่าคดีมีเหตุไม่อนุมัติให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ ไล่ตามวิธีกระบวนการ กฎหมายอาญามาตรา 108/(1) 1.ผู้ต้องหาเหล่านี้ไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเองที่สถานีตำรวจไม่หลบหนีแน่นอน 2.เขาจะไปยุ่งกับพยานหลักฐานได้ไหม ไปยุ่งกับพยานหลักฐานไม่ได้แน่นอน เพราะคนเหล่านี้ไม่ใช่คนมีอิทธิพลเป็นแค่นักศึกษา เยาวชน และไม่ได้มีพฤติการณ์จะไปก่อเหตุอันตราย วันนี้เราพานางสุนีย์ ไชยรส อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาเป็นนายประกันและเป็นผู้กำกับดูแลถ้าได้ประกันด้วย

ต่อมาเวลา 14.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนโพสต์ข้อความระบุว่า ศาลอาญาจังหวัดธัญบุรีมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวเพนกวิน ณัฐนน ฟ้า พรหมศร ไมค์ ระยอง และบอย ยกคำร้องขอประกันของทนายความ ระบุเหตุผลคล้ายกันว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ลงวันที่ 3 ก.ย. ข้ออ้างตามคำร้องไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมสิทธิในการประกันตัว หลังจากกลุ่มมวลชนคาร์ม็อบ 11 กันยายนทราบว่า ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด กลุ่มมวลชนประกาศยุติการชุมนุมและแยกย้ายกันกลับทันที

ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กลุ่มพลเมืองโต้กลับราว 30 คน นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ นัดหมายมวลชนแนวร่วมจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืนหยุดขัง 1.12 ชั่วโมง” เพื่อเรียกร้องสิทธิ์การประกันตัวให้ 7 แกนนำม็อบราษฎร เป็นการมายืนสงบนิ่งต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 27 พร้อมชูภาพผู้ถูกคุมขัง ป้ายข้อความปล่อยเพื่อนเรา และยกเลิก ม.112 วันนี้มีนางสุรีย์รัตน์ มารดาเพนกวิน เดินทางมาร่วมยืนด้วย หลังสิ้นสุดกิจกรรมตามเวลาที่กำหนด หลังจากนั้นแกนนำร่วมกันมอบดอกไม้ให้กำลังใจมารดาเพนกวิน เจ้าตัวขอบคุณมวลชนและกล่าวว่า ผิดหวังที่ศาลไม่ให้ประกันตัวลูกชาย พร้อมทั้งพยายามเล่าเรื่องที่มีข่าวว่าบุตรชายถูกผู้คุมกระทำรุนแรงในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อ้างว่าทราบข้อมูลมาจากทนายและยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง

มารดาเพนกวินกล่าวอีกว่า ได้รับหมายเรียกจากตำรวจ สน.ทองหล่อ ให้ไปรายงานตัวข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากการไปร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยมีนายศรีสุวรรณ จรรยา เป็นผู้ไปแจ้งความ วันดังกล่าวแค่ไปร่วมไม่ได้ปราศรัย แต่ตนไม่ว่าอะไร ถือว่าทำบุญเขาจะได้มีงานทำ เป็นการแสดงให้เห็นว่าพยายามเล่นงานทั้งลูกทั้งแม่ ยืนยันไม่เคยหมดกำลังใจ ถ้าไม่ออกมาเรียกร้องลูกคงถูกรังแกไปเรื่อยๆ หลังจากนี้จะมาร่วมทุกวัน

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ฐานะโฆษก บช.น.แถลงว่า ตำรวจจะพยายามควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแยกดินแดงให้จบลงโดยเร็วที่สุด แต่บางครั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรง อาจทำให้สถานการณ์บานปลาย ตำรวจจะพยายามใช้วิธีการที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงผู้ที่ขับขี่รถยนต์ผ่านบริเวณแยกดินแดงได้รับอันตราย ทั้งหมดนี้จะพยายามให้เกิดความสงบภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ เตรียมออกหมายเรียกเจ้าของคนขับรถแท็กซี่ที่ขนยางรถยนต์มาส่งในพื้นที่ชุมนุมแยกดินแดง ขณะนี้ตำรวจทราบตัวคนขับรถแท็กซี่ดังกล่าวแล้ว

ด้านนายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด-19 ถูกส่งรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เหลือเพียงรายเดียวคือนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน วันนี้แพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เข้าตรวจร่างกายพบว่ารู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก นอนหลับพักผ่อนได้ สัญญาณชีพและค่าออกซิเจนในเลือดเป็นปกติ รวมทั้งได้รับการรักษาโควิด-19 จนครบกำหนด 14 วันแล้ว อยู่ระหว่างพักฟื้นรอส่งกลับเรือนจำ

เย็นวันเดียวกัน กลุ่มทะลุแก๊สนัดชุมนุมช่วงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แยกดินแดง กรมดุริยางค์ทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ขี่รถ จยย.กีดขวางการจราจรเบิ้ลเครื่องเสียงดัง ขว้างปาประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปองลงบนพื้นถนน เกาะกลางถนน ใต้สะพานทางด่วนดินแดงเสียงดังสนั่น นอกจากนี้ยังเผายางและยิงพลุไฟขึ้นไปบนทางด่วนดินแดง ก่อกวนรถที่วิ่งผ่านไปมา หลังจากนั้นขี่รถ จยย.ไปขว้างประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปองเข้าไปในกรมดุริยางค์ทหารบก ด้านเจ้าหน้าที่ คฝ.ยังสังเกตการณ์รอดูท่าทีของกลุ่มทะลุแก๊สในที่ตั้งที่กรมดุริยางค์ทหารบก สำนักงาน ป.ป.ส. และสถานที่ราชการใกล้เคียง