หมออุดม ยืนยัน ศบค. ปิดตัวเลขคนติดเชื้อไม่ได้ ขอประชาชนเข้มมาตรการ Universal Prevention เตรียมกดราคาชุดตรวจ ATK เหลือ 40 บาท คาดสิ้นเดือนนี้ตัวเลขติดเชื้อพุ่งขึ้นเพราะผ่อนปรน

วันที่ 8 ก.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ปฏิเสธว่า ศบค. ไม่สามารถปกปิดตัวเลขการตรวจได้ และไม่ได้ตรวจหาเชื้อน้อยลง จึงขอให้สบายใจได้ เพราะตรวจ RT-PCR วันละ 5-6 หมื่นทุกวัน และมีการตรวจ ATK เพิ่มขึ้น เพื่อจะแก้คอขวดให้ประชาชนตรวจหาเชื้อได้ง่ายๆ แต่ไม่ได้นำตัวเลขของ ATK มารวม แต่หากเอาตัวเลข ATK มารวมจะเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 3 พันราย ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยถือว่าถึงครึ่งหนึ่งของเป้าที่ตั้งเอาไว้แล้ว เพราะเข็ม 1 อยู่ที่ 35 ล้านโดส หรือเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรแล้ว และในอีก 3 เดือนข้างหน้า ไทยจะมีวัคซีนมากกว่า 20 ล้านโดส ที่สามารถฉีดได้ถึงวันละ 8 แสน-1 ล้านโดสต่อวันได้ ยืนยันว่าหากเป็นไปตามการส่งมอบวัคซีนมีเพียงพอ ไปถึงเป้าหมาย 70% ของประชากร และยังสามารถฉีดเข็มที่ 3 ให้กับประชาชนทั่วไปได้ด้วย โดยจะเป็นไฟเซอร์และแอสตราเซเนกาในเดือนหน้าเป็นต้นไป ซึ่งทางศบค.วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อรีบสร้างภูมินำไปสู้กับสายพันธุ์เดลตา พร้อมขออย่าด้อยค่าซิโนแวค เพราะวัคซีนทุกชนิดมีประโยชน์ และมีผลการวิจัยที่ประเทศจีนมาแล้วว่าสามารถป้องกันเดลตา ในเรื่องการเจ็บป่วยรุนแรงได้ถึง 88%

โดยนับจากนี้ต่อไป จะมีการปรับกลยุทธ์ คือ อยู่คู่กับโควิด-19 ให้ได้ คู่กับการฉีดวัคซีน และวิธี Universal Prevention (การป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ครอบจักรวาล) เพราะเป็นมาตรการป้องกันตัวเองส่วนบุคคลอย่างสูงสุด แม้ไม่มีความเสี่ยง โดยจะต้องป้องกันไว้ก่อน เพราะต้องคิดว่าตนเองและคนใกล้ตัวอาจติดเชื้อแฝงอยู่ ถือเป็นวัคซีนในตัวเองดีกว่าวัคซีนในขวด พร้อมเตือนเรื่องการขยับหน้ากากอย่าจับด้านหน้าเพราะเสี่ยงสัมผัสเชื้อสูง

...

นอกจากนี้ ในเรื่องชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชิ้น ที่ทาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมแจกให้กลุ่มเสี่ยง และมีราคาชุดละ 65 บาทนั้น ทางศบค.เตรียมกดราคาให้อยู่ชุดละ 40 บาท เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสิ้นเดือนนี้หรือเดือนหน้า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นได้อีก เพราะผ่อนคลายมาตรการ จึงขอให้เน้น Universal Prevention และ Covid free setting ซึ่งจะช่วยได้มาก เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้