เครดิตดี “มูดี้ส์” ยอมรับ “มูดี้ส์” บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating)
ที่ Baa 1 หรือเทียบเท่า BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ
ในระยะสั้น เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 2%
ปี 2565 ที่ 5.8%
ขาดการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยและเศรษฐกิจโลก ในระยะยาว การระบาดจะส่งผลกระทบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในวงจำกัด
ยังระบุอีกว่า ไทยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่และหลากหลาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ที่ได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี
ตลอดจนอุตสาหกรรมส่งออกอิเล็กทรอนิกส์และยังเป็นฐานของเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวที่โดดเด่นและมีชื่อเสียง
อีกทั้งการจ้างงาน รายได้ และผลที่เกิดจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ไทยมีความสามารถที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงได้
ฐานการเงินภาครัฐที่แข็งแกร่งทำให้มีพื้นที่ทางการคลังที่รองรับผลกระทบได้
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูดี้ส์ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของความสำเร็จของการดำเนินนโยบายเพื่อเพิ่มศักยภาพประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
แต่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยก็คือ “การเมือง” ที่อาจจะส่งผลต่อการกำหนดนโยบายเพื่อการพัฒนาในระยะยาว การชะลอตัวของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
จะส่งผลทางลบต่อเศรษฐกิจและภาคการคลังของประเทศ
...
พูดง่ายๆปัญหาของประเทศไทยก็คือ “การเมือง”
วันนี้เชื่อว่ายังไม่มีใครสามารถคาดเดาสถานการณ์ว่าจะเป็นไปอย่างไรต่อไป เพราะทุกอย่างยังคงกดดันรัฐบาล
ทั้งในสภาและนอกสภา
แน่นอนว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังมีแนวโน้มส่อไปในทางที่ดีขึ้นจนคาดหวังว่าเดือนหน้า (ก.ย.) จะเปิดประเทศได้แล้ว
คงทำให้แรงกดดันทางการเมืองคงจะคลายตัวลงไป
รัฐบาลเริ่มแสดงอาการเปิดหน้าชกให้เห็นบ้างแล้วหมายถึงว่า พร้อมจะเผชิญกับการเมืองอย่างเต็มตัว
การตั้ง “โฆษกรัฐบาล” คนใหม่ก็ชัดแล้ว
คือ เอานักการเมืองที่มีพื้นฐานความรู้ มีจิตวิญญาณในเรื่องการเมืองแบบเฉพาะตัว อีกทั้งกล้าที่จะตอบโต้ทางการเมือง
แบบ “ถึงลูกถึงคน” พูดได้ทุกเรื่อง...
ที่จะได้เห็นต่อไปก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะออกมาแสดงตัวตนด้วยบทบาทผู้นำอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนที่จะโดดลงสู่สนามเพื่อรักษาเก้าอี้เอาไว้ให้ได้.
“สายล่อฟ้า”