โฆษกรัฐบาล ประชุมคณะกรรมการโฆษกกระทรวง กรมประชาสัมพันธ์ และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย รับทราบข้อสั่งการนายกฯ จัดการข่าวปลอม ให้ตอบโต้ด้วยข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด

วันที่ 23 ส.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ได้เชิญโฆษกกระทรวงทั้ง 20 กระทรวง ร่วมประชุมคณะกรรมการโฆษกกระทรวง โดยประชุมทางไกลผ่านระบบ VDO Conference โดยมีผู้แทน ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ร่วมประชุมเพื่อรับทราบข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับการบูรณาการบริหารจัดการข่าวปลอมระหว่างโฆษกกระทรวง สำนักโฆษก กรมประชาสัมพันธ์ และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาทีมโฆษกรัฐบาลได้รับความร่วมมืออย่างดีจากส่วนราชการ ในการชี้แจงประเด็นข่าวที่ทันสถานการณ์ ซึ่งในปัจจุบันพบว่านอกจากข่าวชี้แจงตามภารกิจของส่วนราชการแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องข่าวปลอม (Fake News) และข่าวที่บิดเบือน โดยเฉพาะที่มีการเผยแพร่ทางสื่อและแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญมาก โดยก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวงจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมภายในกระทรวงเอง ซึ่งส่วนใหญ่ได้ดำเนินการแล้ว ในส่วนสำนักโฆษกก็ได้ประชุมหารือกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงาน ก.พ.ร. และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เพื่อร่วมกำหนดการชี้แจ้งข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือน ให้เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของงานประชาสัมพันธ์ส่วนราชการและโฆษกกระทรวง โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมร่วมกำหนดประเด็นข่าวปลอมกับสำนักโฆษกและกรมประชาสัมพันธ์ และแจ้งประเด็นข่าวปลอม และข่าวที่บิดเบือนให้ส่วนราชการชี้แจงอย่างทันท่วงที โดยจะกำหนดเป็นตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานของหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชนด้วย

...

"นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยเกี่ยวกับประเด็นข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือน ที่เกี่ยวกับความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมของประเทศ และด้านสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่มีเจตนาจงใจสร้างส่งผลกระทบต่อรัฐบาล และการดำเนินงานของส่วนราชการ รวมทั้งความปลอดภัยของประชาชนโดยส่วนใหญ่ ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมการโฆษกกระทรวงได้เห็นชอบแนวปฏิบัติเพื่อให้โฆษกกระทรวงทุกกระทรวงสามารถตอบโต้ข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือน ด้วยข่าวข้อเท็จจริงได้อย่างรวดเร็วทันสถานการณ์ยิ่งขึ้น รวมทั้งยังได้มีการพูดคุยถึงการขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์ภาครัฐบาล สร้างการรับรู้ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดด้วย".