“เพนกวิน” พร้อมเพื่อนแกนนำมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลั่น 10 สิงหา คาร์ม็อบแยกราชประสงค์จะยิ่งใหญ่ ฝากพี่น้องประชาชนร่วมต่อสู้ขับไล่ “พล.อ.ประยุทธ์”
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังและวางแผงกั้นอยู่ด้านหน้า และมีมวลชนบางส่วนมารอให้กำลังใจ ซึ่ง นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ ก็เดินทางมาเช่นกัน ภายหลัง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำผู้ชุมนุม ระบุวานนี้ว่าจะพร้อมด้วยทีมทนายความเดินทางมา และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการจับกุมก็ให้มาจับที่นี่ ถ้าไม่จับก็จะถือว่าไม่อยากจับแล้ว จะได้มุ่งหน้ากับการต่อสู้ต่อไป
พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าไม่เคยคิดหลบหนี หรือไปยุ่งกับพยานหลักฐานใดๆ และไม่เคยจะทำอันตรายอะไร และฝ่ายรัฐก็อย่าอ้างว่าทำผิดซ้ำซากไม่เข็ดหลาบ ข้อกล่าวหาทั้งหลายที่ได้รับนั้นยังไม่มีข้อใดที่ศาลตัดสินว่าผิด และในหลักการก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแต่ใช้สิทธิเสรีภาพในฐานะประชาชนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและอนาคตที่สดใสให้กับประเทศชาติเท่านั้น
...
เวลา 13.13 น. นายพริษฐ์ และ นายสิริชัย นาถึง เดินทางมาถึงแล้ว มีมวลชนเข้ากอดให้กำลังใจ จากนั้นกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า วันนี้ใช้ความกล้าหาญมาเผชิญหน้า ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผ่านมาคือการเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องสิทธิเสรีภาพประชาชน และเรียกร้องทางรอดของประชาชน พร้อมขอให้มวลชนเก็บรักษาแรงไว้ วันที่ 10 ส.ค.นี้ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมถึงเครือข่าย จะรวมตัวกันจัดคาร์ม็อบที่แยกราชประสงค์ โดยขอให้เป็นคาร์ม็อบที่ใหญ่ที่สุด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยกำลังของประชาชน เชื่อมั่นในพลังของประชาชน และขอฝากการต่อสู้ไว้ในมือราษฎร ขอให้พี่น้องประชาชนยึดมั่นหลักการของสันติวิธีอย่างที่ทำมาตลอด พร้อมชื่นชมเจ้าหน้าที่บางส่วนที่กล้าหาญออกมาค้านผู้บังคับบัญชา
นายพริษฐ์ ย้ำอีกครั้งว่าประชาชนไม่มีอำนาจ ไม่มีปืน ถ้าต่อสู้โดยการใช้กำลังจะตกเป็นเหยื่อฝ่ายรัฐ ต้องใจเย็น ยืดหยัด ตั้งมั่น เพื่อส่งพลังการต่อสู้ถึงคนที่ยังไม่ตื่น หรือตื่นแล้วยังกล้าไม่พอให้ออกมา และทุกคนสำคัญในการต่อสู้ ขอทิ้งท้ายไว้ว่า ตนเองก็เป็นเพียงนักศึกษาคนหนึ่ง แต่ที่ยังยืดหยัดต่อสู้ได้เพราะพ่อแม่พี่น้องยืนหยัดต่อสู้ไปด้วยกัน จะมีหรือไม่มีตนเองก็ได้ แต่ไม่มีประชาชนไม่ได้ จึงขอฝากภารกิจขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้ในมือของทุกคน
“อย่าหยุดสู้จนกว่าประยุทธ์จะออก อย่าหยุดสู้จนกว่าประเทศจะเป็นประชาธิปไตย อย่าหยุดสู้จนกว่าประเทศจะเป็นของประชาชน และอย่าหยุดสู้จนกว่าทุกคนในประเทศนี้ ไม่ว่าจะเกิดในชนชั้นใด หรืออยู่ในคชตระกูลใด ก็ต้องเท่าเทียมกันในทุกด้าน อย่าหยุดสู้จนกว่าเราจะถึงวันนั้น หากโชคดีวันที่ 10 ส.ค.นี้ จะเจอกับผม แต่หากโชคไม่ดีก็เจอกันที่ปลายทาง ผมจะรอพ่อแม่พี่น้องทุกคน”
เวลา 13.25 น. นายพริษฐ์ และนายสิริชัย ชู 3 นิ้ว และเดินเข้าไปพร้อมกับทนายความ พบตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
เวลา 13.29 น. นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท เดินทางมาถึงและให้กำลังใจ พร้อมประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงถึง นายพริษฐ์ ว่าเราเป็นเพื่อนกัน ขอโทษที่เคยล่วงเกินในอดีต แต่สลิ่มกลับใจยืนข้างคุณ วันนี้เราเป็นเพื่อนกัน
เวลา 13.31 น. นายพริษฐ์และนายสิริชัย พร้อมทนายความเดินเข้าไปในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่าเป็นการดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายใช้เวลาไม่นาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ในเวลา 12.50 น. นายณัฐชนน ไพโรจน์ ได้เดินทางมามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์กรณีถูกออกหมายจับร่วมกับ นายพริษฐ์ หลังทำกิจกรรมสาดสีที่หน้ากองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ปทุมธานี เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวกลุ่มมวลชนหมู่บ้านทะลุฟ้า โดยตำรวจ สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี แสดงหมายจับศาลธัญบุรีและเข้าควบคุมตัวไป โดยยังไม่ทราบว่าถูกนำตัวไปที่ใด
เวลา 13.45 น. นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า แนวร่วมราษฎรมูเตลู ก็เดินทางมามอบตัวแล้วเช่นกัน.