นายกรัฐมนตรี เสียใจ ย้ำพยายามแก้ปัญหาอยู่ จะทำให้ดีที่สุด สั่งแก้เรื่องสายด่วนแล้ว ต้องโทรฟรี ระบุเดือน ส.ค. รองนายกฯ บอก สถานการณ์โควิดจะดีขึ้น
วันที่ 29 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ส่งผ่านคณะทำงาน ผ่านผ่านคลิปวิดีโอความยาว 36 นาที ซึ่งเป็นการบันทึกเทปไว้ในช่วงเวลา 17.00 น. ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน อยากจะพูดหรือสื่อสารอะไรกับประชาชนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า "ผมเพียงแต่พูดว่า ผมเห็นใจ ผมเสียใจ และผมก็พยายามแก้ปัญหาอุปสรรคที่มีมากมาย นายกรัฐมนตรีก็ยินดีที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และต้องมีความร่วมมือระหว่างกันด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงที่ตรงกันถึงจะแก้ปัญหาได้ นายกรัฐมนตรีทำงานไม่เคยทิ้งสักงาน คงไม่ใช่โควิดอย่างเดียว โควิดเป็นเรื่องหลักที่ประชาชนเดือดร้อน แต่มีเรื่องอย่างอื่นตามมาด้วย ทั้งคุณภาพชีวิต ต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม การลงทุน การค้า การเพิ่มรายได้ประเทศ ก็ต้องทำทุกเรื่อง นายกรัฐมนตรีไม่เคยท้อ เพียงแต่เสียใจกับคนที่สูญเสีย และให้กำลังใจกับคนที่ทำงาน อย่าท้อแท้ เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องทำด้วยกัน เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน"
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องที่เป็นกังวลอีกเรื่อง คือผู้ป่วยโควิดรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งเข้าใจเป็นสถานการณ์ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว ไม่ได้เข้าออก เพื่อนบ้านไม่ทราบ นอกจากนี้ยังได้แก้ปัญหาเรื่องสายโทรศัพท์ ที่ได้ปลดล็อกเรื่องเปิดช่องทางให้มากขึ้น ให้บริการฟรี โดยให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ช่วยดูแลตรงนี้ อย่างไรก็ตามขออภัยเรื่องนี้ด้วย และได้พยายามแก้ปัญหาแล้ว ทั้งนี้ประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือจากหน่วยงราชการได้ทุกที่ ขณะที่ทหารได้ปรับหลายพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามด้วยหลายสิบแห่ง ซึ่งให้ทุกค่ายทหาร ทหารทุกหน่วย ดูแลประชาชน เพราะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทุกโอกาส เอาตัวรอดไม่ได้ ซึ่งคือสิ่งที่ย้ำเสมอ และอาจจะมีคนไม่ดีบ้าง ก็ขอให้แจ้งมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะรับเรื่องร้องเรียนทั้งหมด
...
ส่วนเวลานี้ยังมั่นใจว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ยังสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเป็นกลไกหนึ่งที่มีความสำคัญ เพราะ ศบค.ตั้งขึ้นมาเพื่อบูรณาการกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหลายกระทรวง หลายหน่วยงานมีกฎหมายของตัวเอง จึงจำเป็นต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกมา ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้ได้ไปทำตามกฎหมายของตัวเอง ตามเป้าหมายหรือมาตรการที่กำหนดออกไปได้
"ต้องเข้าใจ นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบด้วยการบริหาร ด้วยการให้ข้อสังเกตลงไป ให้แนวคิดแนวปฏิบัติลงไป ก็มีการประเมินสถานการณ์ทุกวันจากข้อมูลที่ข้างล่างส่งมา นายกรัฐมนตรีเก็บข้อมูลทุกอัน หากเขาเสนอมาครบแล้ว นายกรัฐมนตรีก็ไม่ต้องห่วงอะไร ก็อนุมัติดำเนินการ ส่วนเรื่องวัคซีน ได้บอกให้ทำความเข้าใจมากขึ้น วันนี้รองนายกรัฐมนตรียืนยันว่าเดือน ส.ค.จะเข้าสู่สถานการณ์ที่ดีขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว