“อนุทิน” ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนที่ระนอง เผย กระจายซิโนแวค-แอสตราเซเนกาทั่วประเทศทุกสัปดาห์ แจง วัคซีนเริ่มเข้ามาทุกสัปดาห์ บางเดือน 10-12 ล้านโดส

วันที่ 24 ก.ค. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการตรวจเยี่ยมติดตามการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลระนอง ได้รับรายงานว่าสามารถฉีดได้เกือบครึ่งของจำนวนเป้าหมายแล้ว พร้อมให้กำลังใจทีมงานสาธารณสุข และขอให้เพิ่มประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายโดยเร็วที่สุด คาดว่าภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ จะฉีดวัคซีนได้ครบ ซึ่งการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมรวดเร็วเป็นสิ่งที่ดี ประชาชนจะได้สัญจรไปมาได้อย่างปลอดภัย เพราะ จ.ระนอง เป็นจังหวัดท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวและผู้คนเดินทางมาทำงาน ต้องทำให้จังหวัดนี้ปลอดภัย เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้และประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

นายอนุทิน กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนไปทุกจังหวัดทุกสัปดาห์ จัดส่งทั้งแอสตราเซเนกาและซิโนแวค เมื่อกรมควบคุมโรคได้รับวัคซีนแล้วจะใช้เวลา 2-3 วัน กระจายให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เช่น วันนี้ จ.ระนอง ได้วัคซีนเพิ่มอีก 20,000 โดส เนื่องจากเปลี่ยนแผนการฉีดวัคซีน ให้ฉีดซิโนแวคเข็มแรกและเข็มที่ 2 เป็นแอสตราเซเนกา เพราะทำให้ระยะเวลาการฉีดเข็ม 2 ลดลง มีภูมิคุ้นกันโรคเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ชาวระนองจะมีภูมิเพิ่มมากขึ้นและสามารถป้องกันการติดเชื้อได้เพิ่มมากขึ้น หากครบ 2 เข็มแล้วติดเชื้อจะไม่มีอาการหนัก ลดอัตราการเสียชีวิต

...

“สถานการณ์วัคซีนประเทศไทยเป็นไปตามแผนที่กรมควบคุมโรคได้วางไว้ ความสามารถในการฉีดวัคซีนของประเทศไทยอยู่ที่เดือนละประมาณ 10 ล้านโดส เราเริ่มฉีดวัคซีน 7 มิ.ย. 2564 จนถึงสิ้นเดือน ก.ค. คาดว่าจะฉีดได้ตามเป้าหมายที่กรมควบคุมโรคคาดการณ์ไว้ ตัววัคซีนจะเริ่มเข้ามาทุกอาทิตย์ บางเดือน 10 ล้านโดส บางเดือน 12 ล้านโดส”

สำหรับ จ.ระนอง มีประชากรรวมแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 220,000 คน เป้าหมายการฉีดวัคซีนร้อยละ 70 ของประชากรทั้งจังหวัด คือ 159,955 คน มีหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนทั้งหมด 6 แห่ง ขณะนี้มีประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว 79,051 โดส คิดเป็น 49%

อย่างไรก็ตาม หลังจาก นายอนุทิน เดินทางกลับมาถึงกรุงเทพมหานครแล้ว ยังได้แวะตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากร และประชาชนผู้มารับวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อด้วย.