ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่ระบาด เพิ่มมากขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต
หลังประกาศ “ล็อกดาวน์” ไปแล้ว ยังไม่มีข่าวดีให้เห็นแต่อย่างใดตรงกันข้ามรัฐบาลกลับถูกด่าถูกรุมสกรัมหนักขึ้นทุกวัน
แน่นอนในสถานการณ์อย่างนี้คือความจริงที่เกิดขึ้น
คนเป็นนายกฯ นอกจากจะต้องรับหน้าเสื่อไปเต็มๆแล้ว ยังต้องคิดและทำงานเพื่อสงบศึกทุกด้านที่ถาโถมเข้าใส่
สิ้นเดือนนี้แหละ...วัดความอึดว่าจะทนทานแค่ไหน?
แต่เห็นนายกฯยืนยันว่าพร้อมสู้ทุกอย่างจนกว่าจะได้รับชัยชนะและยังวนไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกฝ่ายตรงข้ามแซะอยู่ทุกวันเพื่อให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล
แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะ 3 พรรคร่วมรัฐบาลกลับออกมาประกาศว่าจะล่มหัวจมท้ายกับรัฐบาลต่อไป
ไม่ว่าจะเป็น “อนุทิน ชาญวีรกูล” จากภูมิใจไทย
“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” จากประชาธิปัตย์
“วราวุธ ศิลปอาชา” จากชาติไทยพัฒนา
3 พรรคนี้คือเสาค้ำยันรัฐบาล “3 ป.” ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ต้น มีเสียงสนับสนุนที่ทำให้รัฐบาลมีความแข็งแกร่งอยู่กันมาได้จนถึงทุกวันนี้
อีกไม่ถึง 2 ปี ก็จะครบเทอม 4 ปี
คำตอบจาก 3 พรรคร่วมรัฐบาลก็คือพร้อมจะร่วมกันบริหารต่อไปจนกว่าจะครบวาระนั่นคงเป็นเครื่องยืนยัน
ที่ “บิ๊กตู่” คงสบายใจไปด้านหนึ่ง...
เพราะมิฉะนั้นจะต้องเจอศึก 3 ด้านไปพร้อมๆกัน
1. โควิด-19 ที่กำลังฟาดแรง
2. ฝ่ายต่อต้านทั้งเก่าและใหม่
3. พรรคร่วมรัฐบาลที่ยกมือสนับสนุน
แม้ว่าเรื่องโควิด-19 จะเป็นเรื่องใหญ่สุดและน้ำหนักสูงกว่าเรื่องอื่นๆ ที่จะทำให้รัฐบาลมีอันเป็นไปได้
...
ที่สำคัญวันนี้ยังมิอาจบอกได้ว่า “จะแพ้หรือชนะ” ในเดือนต่อไป
ถ้าแพ้ก็หนักกันไปทั้งประเทศ
ถ้าชนะทุกอย่างน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี
คือประชาชนจะได้พ้นทุกข์พ้นโศกจากความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับการเอาชีวิตให้รอด
รัฐบาลก็คงพลอยฟ้าพลอยฝนตีกรรเชียงเอาตัวรอดไปได้
ฝ่ายค้านและพวกต่อต้านก็ต้องไปหาวิธีการในรูปแบบใหม่ๆเพื่อโค่นล้มให้ได้ สำคัญว่าจะอึดได้อีกนานแค่ไหน
การเปิดซักฟอกรัฐบาลมุ่งหวังสอยปลายคาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดิ้นคามือ ดูแล้วก็ยังไม่ทำให้สั่นคลอนได้
แต่ที่น่าสนใจมากกว่าก็คือจากนี้ไปจะจัดการกับ “โควิด-19” ได้หรือไม่ในห้วงเวลาอีกไม่นานให้ดูกันเดือนหน้าดีกว่า
ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ที่รัฐบาลกลัวก็ประเด็นนี้แหละ...!!!
“ลิขิต จงสกุล”