รองโฆษกพรรคเพื่อไทย จับผิด ละครตบตาซื้อซิโนแวคเพิ่ม หาทางลงให้เครือข่ายที่มีผลประโยชน์ เรียกร้องเปิดสัญญาจัดซื้อไฟเซอร์ 20 ล้านโดส วอน “พล.อ.ประยุทธ์” ยุติบทบาทได้แล้ว

วันที่ 20 ก.ค. 2564 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เดินหน้าฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อว่า วิธีการดังกล่าวทำให้ต้องใช้ซิโนแวคมากถึงเดือนละ 4-5 ล้านโดส และแอสตราเซเนกา เดือนละ 5-6 ล้านโดส ไปจนถึงสิ้นปี เหตุใดศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ยังดื้อดึงเดินหน้าหาวิธีการสั่งซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่ายี่ห้ออื่นเข้ามาท่ามกลางเสียงคัดค้าน หรือเป็นการเล่นละครตบตาหาทางลงให้กับเครือข่ายที่มีผลประโยชน์กับการสั่งซื้อซิโนแวคหรือไม่ สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นมากกว่าในตอนนี้คือ รายละเอียดในสัญญาจัดซื้อไฟเซอร์จำนวน 20 ล้านโดสที่กระทรวงสาธารณสุขอ้างว่าเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว เพราะทุกวันนี้ประชาชนไม่สามารถเชื่อถือคำพูดใดๆ ของรัฐบาลได้อีก ส่วนแผนการทำงานเชิงรุกที่ทำให้การล็อกดาวน์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย อยากเสนอให้รัฐปรับเปลี่ยนสถานที่ราชการที่ work from home ตั้งจุดย่อยสำหรับตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วย Rapid antigen test กระจายจุดฉีดวัคซีนไปตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อลดความหนาแน่นของจุดบริการ และแยกผู้ป่วยออกจากบ้านให้ได้ทันที อย่างไรก็ตามการจัดการที่ล้มเหลวเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ควรยุติบทบาท หยุดทำงาน เพื่อชาติได้แล้ว

นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย
นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย

...

ขณะที่นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐบาลออกมาไร้ผล เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังพุ่งขึ้น เป็นการยืนยันว่ารัฐบาลหมดปัญญาแก้ปัญหา ล่าสุดประกาศใช้มาตรการเข้มข้น หวังลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้ได้ แต่การแก้ปัญหาของพล.อ.ประยุทธ์ เน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและแก้ที่ปลายเหตุ ไม่แก้ที่ต้นเหตุคือการตรวจเชิงรุกในทุกพื้นที่ เพื่อนำผู้ติดเชื้อไปรักษาหรือกักกันก่อนแพร่เชื้อให้คนอื่น รวมทั้งเร่งจัดหาวัคซีนฉีดให้ประชาชนให้มากที่สุด ที่ผ่านมาประกาศกลางสภาฯ ว่าไทยจะมีวัคซีนเดือนละ 10 ล้านโดส แล้ววัคซีนอยู่ไหน ปัจจุบันคนไทยทั้งประเทศพร้อมใจกันไล่พล.อ.ประยุทธ์ เพราะทนไม่ไหวกับรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกมายอมรับว่าตัวเองคือปัญหาของประเทศ หากยังดื้อดึงไม่ฟังคำแนะนำจากทุกฝ่าย สุดท้ายพล.อ.ประยุทธ์ จะพาประเทศไทยล่มสลายในเวลาไม่นาน