กลุ่ม "โมกหลวงริมน้ำ" จับมือ "แอมเนสตี้ฯไทย" ชุมนุม จี้รัฐบาลประยุทธ์ รับความรับผิดชอบในเหตุคุกคามและบังคับผู้เห็นต่างทางการเมืองสูญหาย ชี้ รัฐเพิกเฉยทั้งที่มีหน้าที่ดูแล
วันที่ 4 ก.ค. เวลา 17.20 น. ที่บริเวณ ถนนพระราม 5 ฝั่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เครือข่ายนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ในนาม กลุ่มราษฎร โมกหลวงริมน้ำ นำโดย นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง ร่วมกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จัดกิจกรรรมชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยุติการกระทำคุกคามประชาชนนักเคลื่อนไหว เรียกร้องประชาธิปไตยกับสิทธิพลเมืองทุกรูปแบบ รวมทั้งเร่งรัดสอบสวนและค้นหาข้อเท็จจริง ในคดีบุคคลทุกคนที่ถูกบังคับสูญหายอย่างรอบด้าน และเคารพสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของครอบครัว ผู้สูญหาย และนำตัวคนผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ กลุ่มราษฎร โมกหลวงริมน้ำ มีแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมากลุ่มโมกหลวงริมน้ำได้ทำการยื่นจดหมายถึงประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพยพให้รับผิดชอบต่อการสูญหายของ คุณวันเฉลิม รวมถึงเร่งคืนความยุติธรรมให้กับผู้ที่ถูกคุกคามทุกคนโดยรัฐ เวลาล่วงเลยผ่านมา 1 เดือน รัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลสวัสดิภาพของประชาชนกลับเพิกเฉย ไม่เคลื่อนไหวในประเด็นที่เราเรียกร้องแต่อย่างใด ทั้งที่ภาครัฐมีทรัพยากรและเครือข่ายที่สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ ในเมื่อเราส่งจดหมายถึงประยุทธ์และองคาพยพแล้ว พวกเขาไม่ยอมรับฟัง ครั้งนี้เราจึงมาทำการสาวไส้ความอยุติธรรมในสังคมไทย ไม่ใช่เพียงประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพยพ แต่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้จะต้องร่วมรับผิดชอบ โดยได้นำหลักฐานและข้อเท็จจริงที่รัฐและผู้มีอำนาจคุกคามประชาชนมาตีแผ่ ให้สาธารณชนได้เห็นถึงต้นตอความเน่าเสียของกระบวนการยุติธรรมไทย
...
กิจกรรมของกลุ่มราษฎร โมกริมน้ำ เป็นการปราศรัยสด และวิดีโอคอล จากผู้แทนของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และสมาชิกครอบครัวบุคคลที่ถูกบังคับสูญหาย อาทิ ครอบครัวคุณบิลลี่ - พอละจี รักจงเจริญ ครอบครัวคุณทนง โพธิ์อ่าน ครอบครัวผู้ที่ถูกคุกคามของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต สลับกับการเปิดเพลงและสื่อวีดิทัศน์ซึ่งอ้างว่าเป็นหลักฐานและข้อเท็จจริงที่รัฐและผู้มีอำนาจคุกคามประชาชนมานำเสนอให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ชม ก่อนจะยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 21.30 น.