“วิษณุ” ชี้ คลายล็อกก่อสร้าง 4 ประเภท แค่ชั่วคราว ให้เข้าไปเก็บงานที่เสี่ยงต่ออันตราย ระบุ ต้องรอจังหวัดประกาศก่อน ถึงมีผล ด้าน สมช.ร่อนหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม.-ผวจ. แจ้ง นายกฯ อนุมัติแล้ว
วันที่ 4 ก.ค. เมื่อเวลา 17.45 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อให้อนุมัติหลักการให้อนุญาตสำหรับการก่อสร้างโครงการก่อสร้างบางประเภทและเคลื่อนย้ายแรงงานในกรณีมีเหตุจำเป็น ว่า ตามขั้นตอนหลังจากนายกฯ ในฐานะผอ.ศบค.อนุมัติแล้ว ทางจังหวัดแต่ละจังหวัดจะต้องไปออกประกาศของตัวเองอีกครั้ง หากจังหวัดยังไม่ออกประกาศก็ยังไม่มีผลบังคับใช้ โดยแต่ละจังหวัดจะต้องไปสำรวจก่อนว่าจังหวัดของตัวเองมีงานก่อสร้างตรงไหนที่ยังค้างคาอยู่ ทั้งนี้ การคลายล็อกดังกล่าวไม่ได้เป็นการคลายล็อกถาวร แต่เป็นการคลายล็อกชั่วคราว และเฉพาะบางงานที่ทำให้เกิดอันตรายหากทิ้งไว้ เนื่องจากหลังมีการออกข้อกำหนดฉบับที่ 25 มีการรายงานกลับมาว่างานก่อสร้างบางประเภทต้องหยุดทันที อุปกรณ์อะไรต่างๆ ยังอยู่ที่เดิม บางแห่งปั้นจั่นยังคาไว้ จึงต้องคลายล็อกชั่วคราวเพื่อให้หัวหน้าช่างพาคนงานไปเก็บงานให้เสร็จ จะปล่อยเคว้งไว้ไม่ได้ ส่วนงานก่อสร้างอื่นๆ ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงจะทำให้เกิดอันตรายยังหยุดเหมือนเดิมตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 อย่างไรก็ตาม ในส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดฉบับที่ 25 นั้น ยังมีการเยียวยาอยู่เหมือนเดิม
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) และประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข มอบหมายให้นายสรพงศ์ ศรียานงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศปก.ศบค. ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร และอีกฉบับหนึ่งถึงผู้ว่าฯ กทม.โดยตรง เพื่อแจ้งให้ทราบว่านายกรัฐมนตรีเห็นชอบข้อเสนอ ศปก.ศบค. โดยอนุมัติหลักการให้ผ่อนคลายคำสั่งห้ามการก่อสร้างในโครงการก่อสร้างบางประเภท ซึ่งการหยุดก่อสร้างชั่วคราวอาจจะส่งผลกระทบให้ความเสียหายเชิงโครงสร้างทางวิศวกรรม หรือโครงการก่อสร้างบางประเภทที่มีความจำเป็นอันสมควรได้รับการยกเว้น และการเคลื่อนย้ายแรงงานก่อสร้าง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 และประโยชน์ด้านสาธารณสุข 4 ประเภทก่อสร้าง โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป.
...