กอ.รมน. ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการโควิด-19 ตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 พร้อมสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการและแรงงานป้องกันการแพร่ระบาด

วันที่ 3 ก.ค. 2564 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 25 เรื่อง การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง โดยสั่งปิดสถานที่ก่อสร้าง สั่งหยุดทำงานก่อสร้าง และห้ามแรงงานเคลื่อนย้ายเป็นการชั่วคราวอย่างน้อย 30 วัน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะในเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา) โดยมีผลตั้งแต่ 28 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไปนั้น

พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเลขาธิการ กอ.รมน. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้มอบแนวทางเร่งด่วนตามข้อกำหนดฉบับที่ 25 ให้ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ร่วมกับหน่วยในพื้นที่กำกับติดตามการเคลื่อนย้ายของแรงงานข้ามเขตจังหวัด โดยเฉพาะแรงงานที่เดินทางมาจากในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งร่วมกับสหวิชาชีพเพื่อสร้างการรับรู้พร้อมทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและแรงงาน ถึงเหตุผลความจำเป็นในมาตรการชั่วคราวที่กำหนด และขอความร่วมมือกับประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชนให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด พร้อมทั้งขอให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานในพื้นที่ในการตรวจเขตชุมชน ตลาด หรือสถานที่เสี่ยงด้วยวิธีคัดกรองเชิงรุกและเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเพื่อจำกัดพื้นที่แพร่ระบาด หากพบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนจะดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานที่, กลุ่มเปราะบาง, ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ

...

ทั้งนี้ กอ.รมน. หวังเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือจากประชาชน โดยปฏิบัติตามมาตรการชั่วคราวที่กำหนด และยังคงขอความร่วมมือช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยที่ผ่านมาสามารถสกัดกั้นจับกุมแรงงานต่างด้าว ที่หลบหนีเข้าเมืองได้จากการแจ้งเบาะแสเข้ามาที่สายด่วนความมั่นคง 1374 กอ.รมน. พร้อมมุ่งมั่น บูรณาการ ขับเคลื่อน ประสานงาน และเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส.