เวฟ 4 ไวรัสกลายพันธุ์ แบรนด์ใหม่ระลอกใหม่มีดุ!แนวรบด้านโควิด เหตุการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ตัวเลขนิวไฮเป็นรายวัน ที่น่าห่วงไม่ใช่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ กระทบกับระบบการดูแลรักษาเท่านั้น ยังรวมถึงยอดผู้เสียชีวิต พุ่งพรวดทำสถิติใหม่เรื่อยๆยิ่งเพิ่มก็ยิ่งชวนผวา
ความหวังมวลมนุษยชาติกับมหันตภัยโรคระบาดโควิดรอบนี้ ก็ยังอยู่ที่ “วัคซีน” และการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยในส่วนของประเทศไทยยังมีคำถามที่ไร้คำตอบ
“วัคซีนหลัก” ที่ว่ามากี่ล้านๆโดส มีสต๊อกเหลือเฟือจริงหรือไม่ ชาวบ้านก็ยังถามหาคิวเข้าฉีดกันอยู่
ระบบกระจายฉีดดีขึ้น แต่ยังไม่ดีที่สุด จากที่เคยตั้งเป้าฉีดวันละ 4–5 แสนโดส ให้เข้าเป้า 100 ล้านโดส ภายใน 120 วัน ตัวเลขยังห่างไกล ต้องตบเกียร์เหยียบคันเร่งปรับสปีดกันอีกหลายระดับเพื่อไม่ให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ต้องหน้าแหกเมื่อถึงกำหนดเปิดประเทศ ลุ้นกันปัสสาวะเหนียว ปูพรมฉีดวัคซีนตามดีเดย์ 120 วัน
กระทั่งล่าสุด “วัคซีนทางเลือก” อีก 2–3 ยี่ห้อ เอาเข้าจริงยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบสัญญา ยังไม่ลงนามจัดซื้อเลยด้วยซ้ำ กว่าความหวังนอกเหนือวัคซีนหลักจะมา ก็คงไตรมาส 4 ปลายปีเข้าไปแล้ว
เสียงสวดดังจากทั่วสารทิศ ไม่ต่างจากไฟต์บังคับ การเยียวยาผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาด ล็อกบางกิจการ-กิจกรรม ทั้งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ห้ามกินอาหารในร้านอาหาร
รู้อยู่แล้วมีคนต้องเดือดร้อน ถึงรัฐบาลพยายามจะออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน นายจ้าง ลูกจ้าง คนงาน ปิดช่องโหว่ทุกจุด ทั้งประเภทอยู่ในระบบประกันสังคม และไม่ได้อยู่ในระบบ
...
แต่ที่เดือดร้อนสาหัสกว่าที่ได้ช่วยเหลือเยอะ เสียงโวยเลยกระหึ่มเมือง ยังไม่รวมการปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง “ล็อกไม่เลือก” แม้แค่ 1 เดือนเบื้องต้น ก็ทำเอาสะเทือนไปทั้งวงการ
ชนิดกิจการใหญ่มากยิ่งเจ็บมาก บริษัทก่อสร้างที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ให้ความร่วมมือภาครัฐเต็มเหนี่ยว ทั้งสวอบตรวจเชื้อ ลงทุนจัดหาวัคซีนมาฉีดคนงานครบ เจอมาตรการ “หว่านแห” สั่งปิดดะ ถึงขั้นจุก รอวัดใจ “นายกฯตู่” ช่วยเหลือ
ที่ดูจะเป็น “ความหวัง” ห้วงวิกฤติโรคระบาด นอกจากภาคการส่งออก เครื่องยนต์ตัวเดียวที่เดินคล่องปรื๋อในยามนี้ ตัวเลขเดือน พ.ค.ปีนี้พุ่ง 7 แสนกว่าล้านบาท สูงสุดในรอบ 11 ปี โดยเฉพาะ “ทุเรียน” จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกทุเรียนสดอันดับ 1 ของโลก
ล่าสุดการส่งออกเดือน เม.ย.–พ.ค 2564 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2 แสนตัน 2 หมื่นล้านบาท ราชาผลไม้ “ตัวช่วย” เข็นเศรษฐกิจประเทศไทย
งานนี้รัฐบาลดิ้นสู้โรค โดยเฉพาะ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ แท็กทีม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตร รมต.ประชาธิปัตย์ ได้ยิ้มกับซีนเด่น ภาคส่งออก–เกษตร ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศที่กำลังซวนเซ
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและบริการ ล่าสุด “บิ๊กตู่” ไปตัดริบบิ้นเปิดงานประเดิมโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ไปแล้ว แม้จะเป็นห่วงความพร้อม กับป้องกันการแพร่ระบาด ล่าสุด “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท. ชี้แจงมาตรการคัดกรอง ตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่เข้าพื้นที่เข้มข้น ต้องฉีดวัคซีน–ตรวจเชื้อกัน 3–4 รอบ
กับโครงการแห่งความหวัง “เปิดเกาะ” ที่ภูเก็ตสำเร็จ ก็จะขยายไปจุดอื่น มี “สมุยพลัส” รอคิวต่อไป
ถึงนาทีเกมดิ้นสู้ฟัดของรัฐบาลยังเดินหน้า โดยแทบไม่ต้องกังวลคิวอื่นๆ ทั้งการเมืองนอกสภาฯ ที่มีฝ่ายต้านเริ่มจุดพลุไล่ “บิ๊กตู่” แต่ก็ยังเป็นแค่จุดเริ่ม จัดทัพจัดขบวนไล่
ที่น่าห่วงการเมืองในสภาฯ เริ่มปั่นป่วนในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ล่าสุดกับคิว “องค์ประชุมล่ม” สะท้อนลึกจากอาการแกว่งใน ทั้งค่ายพลังประชารัฐ–ประชาธิปัตย์–ภูมิใจไทย มีวาระลองของ ขบเหลี่ยมปีนเกลียว ใช้เกมเสียงเทคนิคทางกฎหมายใส่กันนิ่มๆ
แต่ก็ยังอยู่ในโหมด “ร้าวหนัก” แต่ยังไม่ “แตก” หรืองานในค่ายพลังประชารัฐเอง “ลุงพี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บริหารจัดการสารพัดก๊ก ก๊วน แก๊ง กรุ๊ปแบบเอาอยู่มือ บางกลุ่มก๊กอาจมี “แผลในใจ” แต่ยังไม่ถึงขั้นแหกค่าย
เมื่อคณะลุงๆยังอยู่ตามเส้นทาง “พิมพ์เขียวอำนาจ” และเมื่อสถานการณ์ลมฟ้าอากาศยังเป็นใจ
ได้แก้ตัว–แก้มือเป็นช็อตๆ แม้จะใช้โอกาสเปลือง.
ทีมข่าวการเมือง