ยังไม่ได้คำตอบ “วัคซีน” จากนี้ไป ย่างเข้าเดือนใหม่จาก มิ.ย.64 เข้าสู่ ก.ค.64 สถานการณ์โควิด-19 ของไทยยังมีอยู่ในอาการลำบาก
เพราะสายพันธุ์ใหม่ “เดลตา” จากอินเดียที่กลายพันธุ์เข้ามาแพร่ระบาดในไทยเรียบร้อยไปแล้ว ถือเป็นวงรอบที่ 4
ถือว่าหนัก รุนแรงและรวดเร็ว
เนื่องจากสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายแค่เดินเฉียดผ่านกันในเวลานิดเดียวก็สามารถติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้เลย
ประเด็นสำคัญก็คือ ยังไม่มี “วัคซีน” ตัวไหนการันตีได้ว่า จะจัดการได้มีเพียงแต่การคาดการณ์ของบรรดาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เท่านั้นที่ยืนยันได้ว่า 2 เข็มเอาไม่อยู่ต้อง 3 เข็มเท่านั้น...
อย่าว่าแต่ 3 เข็ม แค่เข็มเดียวก็ยังไม่ได้ฉีด
ปัญหาวันนี้ของไทยก็ยังวนอยู่ที่เดิม คือไม่มีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้คนไทยได้ ล่าสุดแอสตราเซเนกาจัดส่งให้ไทยจำนวน 1.3 ล้านโดส
เป็นโควตาประจำเดือน มิ.ย.อย่างที่ตกลงกันไว้จากจำนวน 6 ล้านโดส แต่กว่าจะได้ครบก็ต้องลุ้นกันระทึก
ว่าจะจัดส่งให้ได้หรือไม่? ถือว่าเอาตัวรอดไปได้ช่วงหนึ่ง
แต่ในเดือนใหม่นี้ซึ่งจะต้องจัดส่งให้ไทย 10 ล้านโดสยังไม่มีการส่งเสียงบอกถึงความชัดเจนว่าจะส่งให้ได้หรือไม่
แม้รัฐบาลจะยืนยันว่าได้ของแน่ เนื่องจากเป็นข้อตกลงกันแล้ว แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดจำนวนเท่าใด ได้เมื่อใด
ให้ไปนอนฝันกัน...แก้เซ็ง
สถานการณ์วัคซีนทั่วโลกนั้นมีความแตกต่างกันมาก หลายประเทศซื้อตุนเอาไว้จนยาจะหมดอายุ แต่หลายประเทศยังไม่ได้ฉีดเลยแม้แต่เข็มเดียว
ประกาศพร้อมจะขายส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งจะบริจาคให้กับประเทศต่างๆด้วยการเอื้ออารีย์ แต่มีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝงอยู่
...
“ญี่ปุ่น” ยังบริจาคให้ไทยลอตหนึ่งแต่มีข้อแม้ว่าจะไม่นำไปใช้ในกิจการที่เกี่ยวกับกองทัพเป็นข้อแม้ซึ่งได้มีการลงนามกันไปแล้ว
เรื่องนี้ก็เลยกลายเป็น “หัวข้อ” ถกเถียงขึ้นมาทันที
ฝ่ายหนึ่งบอกว่าเขาให้ก็ควรยินดีรับไว้เพราะของเราก็ยังขาดอยู่ อีกฝ่ายบอกว่าไม่ได้เพราะแค่นิดเดียว
เสียฟอร์มประเทศไทยหมด ไม่ใช่ประเทศกระจอก
ก็ว่ากันไปในโลกสังคมสมัยนี้ที่ทุกอย่างจะต้องมีนำมาหยิบถก ยิ่งในสถานการณ์การเมืองอย่างนี้
“รัฐบาล” ทำอะไรก็ผิดหมด ต้องถูกด่าถูกไล่
ที่สำคัญก็คือ ในช่วงจากนี้ไปวัคซีนจากแอสตราเซเนกา พูดง่ายๆลอตประจำเดือน ก.ค.นั้นยังไม่ได้รับคำยืนยันว่าจะได้แน่นอนหรือไม่
หากไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น
ตั้งรับกันให้ดีก็แล้วกัน...
“สายล่อฟ้า”