ครึ่งหมื่นวันเดียว สัญญาณบอกเหตุ นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดก็ว่าได้นับแต่โควิด-19 ระบาดในประเทศไทยที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 5,000 คน ถือว่าการแพร่ระบาดนั้น

หนักหน่วง-รุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

นั่นคงเป็นข้อมูลทางการแพทย์ทำให้บรรดาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องเสนอความเห็นให้รัฐบาลประกาศ “ล็อกดาวน์” กรุงเทพฯและปริมณฑล

จนต้องมีคำสั่ง “ปิดจุด” ที่มีอัตราเสี่ยงสูง

อย่างแคมป์คนงานและกิจกรรมก่อสร้างทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายไปมากกว่านี้

อีกทั้งเพื่อป้องกันการเดินทางไปมาหาสู่หรือติดต่อกัน

แม้จะต้องเสี่ยงที่ปิดแคมป์คนงานทำให้มีการเดินทางกลับต่างจังหวัด แต่ด้วยมาตรการของรัฐบาลที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

ตัวเลขการเดินทางออกต่างจังหวัดจึงมีน้อยมาก

ประเด็นที่จะพูดถึงกันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ออกมาเตือนคือ

1.สัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงพีก (peak) ของความเสี่ยงสูงสุดจึงเตือนว่าถ้าไม่มีความจำเป็นจริงๆขอให้อยู่กับบ้าน 100%

2.ถ้ากราฟพุ่งขึ้นก็เตรียมตัวรับการปิดเมืองได้เลย ถ้ากราฟหักหัวลงก็แปลว่าคนไทยยังมีทางรอด

3.วัคซีนลอตใหญ่กำลังจะเข้ามา แต่มีปัญหาเรื่อง distribution กำลังเสนอให้คลินิกเอกชนช่วยฉีดให้ นอกเหนือจากโรงพยาบาล

4.คนไทยกว่าจะได้ใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้งคงต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งจากนี้ไป

สิ่งที่ต้องระวังตัวสูงสุดในสัปดาห์หน้าคือ อย่าออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น

มีเหตุผลเสริมด้วยข้อมูลอีกชุดหนึ่งระบุว่าตัวเลขช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นพอจะยืนยันได้ว่ากรุงเทพฯและปริมณฑลคือการเริ่มต้นของการระบาดระลอกที่ 4 แม้จะมีมาตรการเข้มงวดในระลอกที่ 3

...

แต่นั่นไม่เพียงพอ

เพราะสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังจู่โจมอยู่นี้คือ “เดลตา” ซึ่งเหนือกว่าเชื้อที่ระบาดระลอกที่ 3 ถึง 60% หรือ 1.6 เท่า

มีคำแนะนำอยู่ 3 ส่วนคือ

1.กรุงเทพฯและปริมณฑลทั้งหมดให้ผู้คนเตรียมพร้อมเสาร์-อาทิตย์นี้ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.64 ล็อกดาวน์อย่างน้อย 14 วันแล้วค่อยผ่อนคลาย

2.ต่างจังหวัดให้ตรวจสอบทุกคนที่มาจากกรุงเทพฯปริมณฑลและจังหวัดสีแดงรอบๆอย่างจริงจัง

3.ทุกคนต้องป้องกันตนเองและครอบครัวอย่างเต็มที่

สายพันธุ์เดลตานั้นใช้เวลาในการติดต่อไม่ถึง 10 วินาที เมื่อเทียบกับแต่ก่อนอาจต้องใช้เวลา 10-15 นาที

หมายความว่าแค่เดินผ่านกันก็อาจติดได้แล้ว

นี่เป็นสัญญาณที่ทุกคนจะต้องพร้อมปฏิบัติ

อย่าประมาท เชื่อ “หมอ”...เถอะครับ!

“สายล่อฟ้า”