รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข เผย Samui Plus Model เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ตั้งเป้าเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15 ก.ค.นี้ ตามนโยบายรัฐบาล

วันที่ 27 มิ.ย. ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามความพร้อม Samui Plus Model และตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนบนเกาะสมุย โดยมี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้การต้อนรับ

นายอนุทินกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มาติดตามความพร้อมในพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่อจาก จ.ภูเก็ต ของเกาะสมุย รวมถึงเกาะพะงัน และเกาะเต่า ตามแผน Samui Plus Model ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายให้เปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 จากการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการพบว่ามีความพร้อม เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยสามารถคัดกรองผู้ที่เดินทางมายังเกาะได้ง่าย ทั้งทางด่านอากาศและด่านท่าเรือ และประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มกว่าร้อยละ 65 โดยในวันนี้ได้นำวัคซีนมาเพิ่มเติมสำหรับฉีดให้กับประชากรที่เหลือให้เกิดความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้เกาะสมุยเป็นเกาะที่มีความปลอดภัย ซึ่งประชากรจากทั้ง 3 เกาะจะต้องได้รับวัคซีนครอบคลุมก่อนที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องมีความปลอดภัยด้วย โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการสำคัญคือ นักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม และเข้ารับการ Quarantine เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ นอกจากนี้ผู้ว่าการท่องเที่ยวฯ ได้นำเสนอแผนการเปิดเที่ยวบินจากต่างประเทศตรงมายังเกาะสมุย เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เกาะสมุยได้จัดจุดบริการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชน 4 จุด ได้แก่
1.โรงพยาบาลเกาะสมุย
2.โรงพยาบาลกรุงเทพ-สมุย
3.ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย
4.วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี สามารถให้บริการได้ 8,000 คน/วัน

...

โดยมีโรงพยาบาลเกาะสมุยเป็นผู้บริหารจัดการหลัก และได้รับความร่วมมือจากส่วนท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัครตรวจคนเข้าเมือง ร่วมให้บริการในพื้นที่ และยังมีการฉีดวัคซีนเชิงรุกสำหรับกลุ่มเปราะบางหรือมีอุปสรรคด้านพื้นที่ ได้แก่ ชุมชนมุสลิม ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง พระสงฆ์ ผู้ต้องขังในเรือนจำ ประชาชนตามหมู่เกาะ เช่น เกาะพะลวย หมู่เกาะอ่างทอง นอกจากนี้ยังฉีดให้กับแรงงานต่างด้าว ชาวต่างชาติที่มาทำงาน ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ มีครอบครัว หรือใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ โดยนำข้อมูลจากฐานการเสียภาษี เบื้องต้นทำการฉีดให้กับชาวต่าวชาติที่พำนักระยะยาวเกิน 1 ปี และได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไว้กับทางจังหวัด หลังจาก ศบค.ประกาศให้ฉีดวัคซีนให้กับชาวต่างชาติในพื้นที่ท่องเที่ยวตามเงื่อนไขที่กำหนด

นายอนุทิน ได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือฉีดวัคซีนว่า ขอขอบคุณทุกคนทั้งคนไทยและต่างชาติที่ให้ความร่วมมือเข้ารับการฉีดวัคซีน เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในพื้นที่ สร้างความมั่นใจก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยว ให้เกาะสมุยเป็นเกาะที่ปลอดภัย กลับมามีชีวิตชีวา ภาคธุรกิจ และการท่องเที่ยวสามารถเดินหน้าต่อได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามแม้ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มแล้ว ยังสามารถติดเชื้อได้แต่อาการจะไม่รุนแรง ขอให้ยังคงมาตรการป้องกันตัวเอง ทั้งการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยของตนเองและทุกคน.