"2 ป." บิ๊กป้อมและบิ๊กป๊อก ร่วมวงประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ขับเคลื่อนแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2564-2570 เป็นแม่บทจัดการสาธารณภัยของประเทศ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติครั้งที่ 1/2564 (กปภ.ช.) ผ่านออนไลน์ โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เข้าร่วม วาระสำคัญ เพื่อพิจารณานโยบายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564-2570 ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้เป็นแนวทางหลักจัดการสาธารณภัยของประเทศต่อไป
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นในประเทศช่วงที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นหลายพื้นที่มีความเสี่ยงเกิดภัยพิบัติ ทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง วาตภัยไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 กำหนดให้จัดทำ ปรับปรุง หรือ ทบทวนแผน ให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน ปภ. ฐานะเลขานุการ กปภ.ช. และหน่วยงานรับผิดชอบจัดทำแผน จึงได้จัดทำนโยบายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564-2570 เสนอ กปภ.ช. ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้เป็นแนวทางหลักจัดการสาธารณภัยประเทศต่อไป
สำหรับ วันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาในสาระสำคัญของนโยบายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ 5 ประการ ดังนี้
1. มุ่งลดความเสี่ยงสาธารณภัย โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงจากสาธารณภัยอย่างรอบด้าน
...
2. บูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับมาตรฐานระบบจัดการสาธารณภัยภาวะฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. การพัฒนาระบบการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน
4. เสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. ส่งเสริมการวิจัย ประยุกต์ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีและภูมิปัญญาเพิ่มศักยภาพจัดการสาธารณภัยประเทศ รวมถึงพิจารณาแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564-2570 ซึ่งเป็นแผนฉบับใหม่ ปรับปรุงจากแผนฉบับเดิมใช้ครบกำหนด 5 ปี โดยมีลักษณะกรอบแนวคิดปฏิบัติตาม 5 ยุทธศาสตร์ คือ มุ่งเน้นการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย จัดการภาวะฉุกเฉินแบบบูรณาการ เพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน เสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการโดยประยุกต์ใช้นวัตกรรมด้านสาธารณภัย นอกจากนั้น ยังได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และเป้าหมายการพัฒนายั่งยืนมาเป็นกรอบแนวทางการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยด้วย
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดี ปภ.ในฐานะเลขาฯ กปภ.ช. กล่าวว่า จะได้นำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564-2570 เสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ เพื่อให้ทุกหน่วยงานใช้เป็นกรอบแนวทางหลักจัดการสาธารณภัยของประเทศต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ กปภ.ช. รับทราบมติคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กปภ.ช. 5 คน คือ รศ.เสรี ศุภราทิตย์ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ ร.ท.วโรดม สุจริตกุล ผศ.ทวิดา กมลเวชช และ ศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์.