“พลภูมิ-พงศกร-ชญาดา” รุดช่วย 2 พ่อลูกติดโควิด-19 เชื้อลงปอด แต่หมอให้ออกจาก รพ. มาอยู่ห้องเช่า เหตุเตียงไม่พอ-เพื่อนบ้านสงสารลงขัน เช่าเครื่องช่วยหายใจยื้อชีวิต
วันที่ 23 มิ.ย. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.เขตบึงกุ่ม-คันนายาว พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องราวจาก นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกะปิ พรรคเพื่อไทย มีคุณลุงขับแท็กซี่อายุ 67 ปี และลูกชายอายุ 21 ปี สองพ่อลูกติดเชื้อโควิด-19 ผู้เป็นพ่อเชื้อลงปอดอาการหนัก ส่วนลูกชายเชื้อลงปอดติดเชื้อในกระแสเลือด และมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชัก ตอนนี้อาการยังไม่ดี ช่วยเหลือตัวเองได้ลำบากมาก แต่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี แจ้งว่าโควิดหายแล้ว แม้จะมีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ก็ให้ออกจากโรงพยาบาลมาทานยาเอง อยู่ที่ห้องเช่า เนื่องจากเตียงไม่พอ เพื่อนบ้านสงสาร จึงช่วยกันลงขันเช่าเครื่องช่วยหายใจเพื่อยื้อชีวิตให้คุณลุง ที่ยังนอนนิ่งช่วยตัวเองไม่ได้
ขณะเดียวกัน ลูกชายวัย 21 ปี เป็นเด็กนิสัยดี ตั้งใจเรียน เก่งภาษาญี่ปุ่น กำลังจะได้รับปริญญา ภาวนาขอให้ได้ถ่ายรูปชุดครุยกับพ่อ จึงวิงวอนขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนี้ค้างค่าเช่าห้อง เจ้าของห้องจะให้ย้ายออกสิ้นเดือนนี้ ส่วนค่าน้ำค่าไฟเพื่อนบ้านใจบุญช่วยกันระดมทุนเพื่อช่วยเหลือกัน
...
นายพลภูมิ กล่าวอีกว่า พอทราบเรื่อง ตนพร้อมนางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ นายกสโมสรกีฬาคันนายาว และ นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกะปิ พรรคเพื่อไทย จึงได้ลงไปเยี่ยมครอบครัวนี้ พร้อมมอบถุงยังชีพ และเงินช่วยเหลือเบื้องต้น และยืนยันว่า จะช่วยครอบครัวนี้อย่างเต็มที่ ตอนนี้อาการทั้งคุณลุงและลูกชายยังถือว่าแย่มาก แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ น่าสงสารมากจริงๆ พร้อมขอตั้งคำถามไปยังโรงพยาบาลของรัฐ เหตุใดจึงทิ้งประชาชนแบบนี้ ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขควรเข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย